ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ การฉีด Filler ใต้ตา เป็นอีกเทคนิคหนึ่งในการแก้ไขปัญหารอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตา ใต้ตาลึก ด้วยการใช้สารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์ (Filler) ในการฉีดเพื่อแก้ไข โดยหลังจากที่ได้รับการฉีด รอยคล้ำ รอยย่นรอบดวงตาจะดูดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหารอบดวงตาที่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น มีแผลที่เล็กมากเพียงรอยเข็มที่ฉีด จึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ
คุณหมอเฟิสท์มีความเชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์รอบดวงตา และเป็นอาจารย์แพทย์ด้านฟิลเลอร์ประจำบริษัท Allerfan (AMI Trainer) เรื่องฟิลเลอร์ไว้ใจคุณหมอได้
คุณหมอเฟิสท์ดูแลและแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าหลายร้อยเคส ได้รับความพึงพอใจกว่า 99% คุณหมอประณีตกับทุกเคส รับประกันความสวย คุ้มค่ากับคนไข้อย่างแน่นอน
ที่คลินิกเราใช้แต่ฟิลเลอร์เกรดพรีเมี่ยม แก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการคนไข้ ไม่ใช้ฟิลเลอร์เยอะในครั้งเดียว การฉีดเยอะมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาการเป็นก้อนได้
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท HA ไปยังบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาดำ ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องน้ำตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาใต้ตาที่ตรงจุด และ ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังทำทันที ไม่ต้องพักฟื้น มีเพียงแค่รอยเข็มเล็ก ๆ จากการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเท่านั้นครับ
“ไม่ใช่ว่าหมอท่านไหนก็ฉีดฟิลเลอร์ได้” ผมต้องบอกว่า เจอเคสที่เข้ามารับแก้ไขหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกอื่นมาเยอะมาก การฉีดใต้ตามีหลายสิ่งที่คนไข้ควรคำนึงถึงครับ
ไม่ใช่ว่าฉีดแล้วมั่นใจว่าจะสวยแน่นอน ถ้าแพทย์ที่ทำหัตถการให้ ไม่มีประสบการณ์ และ ความประณีตมากพอ ฟิลเลอร์ก็อาจจะไม่เนียน หรือ เป็นก้อนได้ครับ
ผิวบริเวณใต้ตา ถือว่ามีความบางมาก อีกทั้งยังเป็นจุดที่มีเส้นเลือดมากที่สุดบนใบหน้า ขอให้คนไข้มั่นใจครับ ว่าหากรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากทาง First Clinic คนไข้จะได้รับการตรวจประเมินรอบดวงตาอย่างละเอียด ทั้งก่อน และ หลังทำหัตถการ โดยจักษุแพทย์เฉพาะทางครับ
พูดตามความเป็นจริง คือ ทุกการทำหัตถการมีความเสี่ยงหมดครับ แต่จะเสี่ยงมาก หรือ เสี่ยงน้อย ก็ขึ้นอยู่ที่คนไข้ได้รับการแก้ไขจากใคร หากทำหัตถการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์มาก มีเทคนิคการฉีดที่เหมาะสมกับปัญหาแต่ละแบบ คนไข้ก็อาจจะพบความเสี่ยงในการที่ต้องมาคอยแก้ไขน้อยลงครับ
อย่างที่บอกเลยครับ รอบดวงตาเราไม่ได้มีอะไหล่ไว้คอยเปลี่ยน ทำทั้งทีต้องทำให้ดีตั้งแต่ครั้งแรก เพราะการกลับมาแก้ไข จะทำให้เราทั้งเสียใจ เสียเงิน และ เสียเวลาเพิ่มโดยใช่เหตุ ดังนั้นควรศึกษาทุกการทำหัตถการให้ดี คิดเสมอว่าเรามีหน้าเดียว ต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับใบหน้าครับ
ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ถือเป็นสิ่งที่เจอได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นเลยครับ ต้องบอกว่าเกิดจากหลายสาเหตุมาก ๆ ทั้งในแง่ของกรรมพันธุ์ คือเป็นตามคนที่บ้าน หรือ ในแง่ของพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ไขมัน คอลลาเจน และ เนื้อเยื่อที่มาซัพพอร์ตใต้ตามันหายไป เลยเห็นเส้นเลือดชัดเป็นใต้ตาดำนั้นเอง การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปก็จะช่วยทดแทนในส่วนของชั้นไขมันที่บางลง ทำให้เห็นเส้นเลือด หรือ ความคล้ำน้อยลงนั้นเองครับ
ใต้ตาลึก เห็นเป็นร่องใต้ตาชัดเจน เกิดได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นมาจากกรรมพันธุ์ รวมถึง การที่ร่างกายขาดวิตามินซี วิตามินเค และ ธาตุเหล็ก รวมถึงมักจะพบได้ในผู้ที่ค่อนข้างมีอายุครับ โดยเราสามารถใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มบริเวณที่มีการยุบตัวได้ ใต้ตาก็จะดูเต็มขึ้น ผลพลอยได้คือ ใต้ตาคล้ำน้อยลงไปด้วย เมื่อร่องใต้ตาหายไป และ รอยคล้ำมีความสว่างขึ้น หน้าจะดูอ่อนเยาว์ขึ้นครับ
ถุงใต้ตาก็เป็นอีกปัญหากวนใจมาก ๆ ครับ เพราะเราสามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ตอนยังวัยรุ่น และ เป็นมากขึ้นในตอนโต สาเหตุก็มีทั้งจากกรรมพันธุ์ และ พฤติกรรมการใช้ชีวิตครับ
จะเห็นได้เลยว่าบางคนมีถุงใต้ตาตั้งแต่ช่วงอายุ 18 ปีเลย แล้วพออายุมากขึ้น ไขมันบริเวณเบ้าตาบนก็ตกลงมาเพิ่ม ทำให้เห็นถุงใต้ตาชัดกว่าเดิม กรณีแบบนี้ สามารถฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตาได้ เพื่อดันไขมันกลับลงไปบริเวณเบ้าตา หลังการแก้ไขใต้ตาก็จะดูเรียบเนียนขึ้นครับ
รอยย่นใต้ตาส่วนใหญ่จะพบได้ในวัยกลางคนครับ เพราะพอเราอายุมากขึ้นพวกไฮยาลูรอนิค คอลลาเจน อิลาสติน ในผิวก็จะมีการลดลง รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็น การแสดงออกทางอารมณ์บนใบหน้า การขยี้ตาบ่อยจากอาการภูมิแพ้ การฉีดฟิลเลอร์ไปยังบริเวณใต้ตานอกจากจะแก้ปัญหาสามข้อด้านบน ยังสามารถช่วยตกแต่งให้ริ้วรอยบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้นได้ด้วยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือเป็นการฉีดแก้ไขปัญหาร่องใต้ตา ใต้ตาคล้ำลึกที่หลาย ๆ ท่านให้ความสนใจมาก เพราะว่าหลังฉีดเสร็จเห็นผลทันที ฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ต้องรอเวลาพักฟื้นนานเหมือนการศัลยกรรม ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ใต้ตา บนโลกออนไลน์มีอยู่มากครับ
อ่านต่อ
ร่องใต้ตา ทำให้หน้าดูหมอง ไม่สดใส ก่อนอื่นต้องทำความรู้จัก ร่องใต้ตา หรือ ร่องน้ำตา (Tear Trough) เป็นริ้วรอยบริเวณใต้ตาที่สังเกตได้ง่าย เห็นเป็นขอบชัด เป็นเส้นตั้งแต่บริเวณช่วงหัวตา จนถึงบริเวณหน้าแก้มด้านบน
ทำให้ดูมีอายุ มักจะปรากฏในคนที่นอนน้อย มักพบในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ยิ่งสังเกตเห็นได้ชัด
อ่านต่อ
เชี่ยวชาญด้านกายวิภาครอบดวงตา มั่นใจถึงความปลอดภัยได้ ทั้งฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขปัญหาใต้ตา ฟิลเลอร์ชั้นตา แก้ไขปัญหาชั้นพับตา คุณหมอสามารถแก้ไขได้อย่างเป็นธรรมชาติ และ ปลอดภัย
มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ และ ฟิลเลอร์รอบดวงตามมากกว่า 15 ปี ฉีดและแก้ไขมาหลายร้อยเคส ได้รับความพึงพอใจกว่า 99% คุณหมอประณีตกับทุกเคส รับประกันความสวย คุ้มค่ากับคนไข้อย่างแน่นอน
ไม่ต้องเสียเวลามาฉีดสลายฟิลเลอร์ หมดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน หลายท่านอาจเคยเจอปัญหา การฉีดแล้วไปคอยตามแก้ไข มั่นใจได้ว่าหากเลือกที่คลินิกเรา ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจมากแน่นอน
ให้ตรงความต้องการคนไข้ ไม่ใช้ฟิลเลอร์เยอะในครั้งเดียว การฉีดเยอะมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาการเป็นก้อนได้ คุณหมอจะค่อยๆปรับแก้ไขตามความเหมาะสม และ ตามความพึงพอใจของคนไข้ครับ
วิธีลดบวมช้ำ หน้าบวมมีรอยช้ำทำไงดี? อาการบวมช้ำหลังการทำหัตถการ
ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม สารคลายกล้ามเนื้อ การฉีดเมโสเทอราปี และหัตถการอื่น ๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ครับ
อ่านต่อการใช้ฟิลเลอร์ก็คือการแก้ไขแบบที่ไม่ใช้ใบมีด ไม่ใช่การทำศัลยกรรม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลัก ๆ จะเหมาะกับคนที่ไม่สะดวกที่จะลาหยุดนาน ๆ จากการทำศัลยกรรม
ติดภารกิจ หรือ ต้องพบเจอผู้คนบ่อย การฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์หลังทำทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผล มีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ ที่จะหายไปเองภายในไม่กี่วันครับ
ถุงใต้ตา เป็นปัญหากวนใจด้านความสวยงาม ไม่ว่าจะอายุมาก หรือ อายุน้อยก็สามารถพบปัญหานี้ได้ครับ
ซึ่งก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับ “ถุงใต้ตา” กันก่อนว่า คืออะไร ทำไมใต้ตาเราถึงบวม บางคนก็บวมโดยกำเนิด บางคนก็ใต้ตาบวมแค่บางวันเท่านั้น
อ่านต่อตามจริงสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีครับ โดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ให้โครงสร้างหน้าไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมาก ก็สามารถเข้ามารับคำปรึกษาในการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มได้เลย ซึ่งฟิลเลอร์แท้ สามารถสลายได้เองหมด 100% ไม่ตกค้าง ดังนั้นสามารถสบายใจเรื่องความปลอดภัยได้เลยครับ
รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์เป็นเพียง Minor change ไม่ได้เปลี่ยนแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ หน้าไม่ได้ดูเปลี่ยนมาก
แต่ภาพรวมดูดีขึ้นอย่างชัดเจน และ ดูอ่อนเยาว์ขึ้นเนื่องจากในฟิลเลอร์มีสาร Hyaluronic Acid ที่จะเติมความชุ่มชื้นให้กับจุดที่ฉีด คนฉีดฟิลเลอร์เลยดูหน้าเด็กขึ้นนั้นเองครับ
ใต้ตาดำ ภูมิแพ้ ถือเป็นของคู่กันเลยค่ะ สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ แน่นอนว่าต้องมีปัญหาใหญ่ ๆ ที่เป็นกังวลอยู่นั่นก็คือ “ใต้ตาดำจากภูมิแพ้” ที่เกิดขึ้นโดยกำเนิดใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะทาครีมใต้ตาสักกี่ตัว กี่ชนิด ก็รักษาไม่หายสักที
เช่นเดียวกันกับเคสของ คุณพริม “แพรชมพู นาคสุขศรี” ที่ได้มีโอกาสมาปรึกษาคุณหมอเฟิสท์ที่ First Clinic เกี่ยวกับปัญหาใต้ตาดำ คล้ำ จากโรคภูมิแพ้
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ของคุณพริมให้ทุกคนได้ฟังกัน เพื่อเป็นรีวิวประกอบการตัดสินใจในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาค่ะ
อ่านต่อ
ตามอายุของฟิลเลอร์แท้ จะอยู่ได้ประมาณ 8 – 12 เดือนครับ แต่ด้วยเทคนิคการฉีดพิเศษของทาง First Clinic ที่จะฉีดทุกชั้นผิว ทั้งชั้นลึก ชั้นกลาง ชั้นตื้น
ทำให้ระยะเวลาการหายไปของฟิลเลอร์มันไม่เท่ากัน ชั้นตื้นก็จะค่อย ๆ หายไปก่อน เป็นเทคนิคการฉีดที่ทั้งช่วยให้ไม่เป็นก้อน และ ยืดอายุฟิลเลอร์
ดังนั้น หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับทางเฟิสท์คลินิกไป อายุของฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่สูงสุดที่ 1 – 2 ปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนัง และ การดูแลตัวเองของคนไข้ด้วยครับ แต่รับรองว่าเมื่อฟิลเลอร์สลายไป จะไม่ได้กลับไปหน้าเหมือนตอนก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์แน่นอนครับ
ฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดนิยมครับ ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักฟิลเลอร์กันก่อนว่า ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร
ถึงจะได้เข้าใจว่า ทำไมฟิลเลอร์แท้ถึงไม่อยู่ถาวรแล้วคุ้มค่าจริงหรือไม่ สำหรับการทำหัตถการ ฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงเทคนิคการฉีดของแพทย์ และ ข้อควรระวังเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปลอมครับ
อ่านต่อ
อยากแก้ปัญหาใต้ตาทั้งที ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่cc ถึงจะเห็นผล สวยเต็มและเป็นธรรมชาติ
ถึงแม้ว่าจะมีเทคนิคการแก้ปัญหาใต้ตาหลากหลายวิธี แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธว่า การแก้ไขด้วยฟิลเลอร์นั้น เห็นผลเร็ว ไม่มีช่วงเวลาพักฟื้น และ เข้าที่ไวที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเลยกลายเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
อ่านต่อ
ชั้นผิวของการฉีดฟิลเลอร์ถือว่ามีความสำคัญมากนะครับ การฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป อาจจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนจริงแต่อาจจะทำให้เกิดฟิลเลอร์เป็นก้อนง่ายขึ้น
ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ลึกเกินไป อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณเยอะขึ้น ซึ่งการใช้เยอะ นอกจากทำให้เปลืองเงินแล้ว ฉีดไม่ดียังเป็นก้อนได้เหมือนกัน
ดังนั้น หากฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จะฉีดได้ถูกชั้น ถูกจุด เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และ ไม่เป็นก้อนตั้งแต่แรกครับ
ผมเห็นเคสแก้ไขมาเยอะมากครับ หลาย ๆ คนเห็นว่าราคาถูก เลยเลือกฉีดไป สุดท้ายก็ต้องมาขูดออก ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่ใช่ว่าขูดครั้งเดียวหมดนะครับ
บางทีเป็นพังผืด ขูดหลายรอบมาก ทำให้คนไข้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิต ผิวเสีย เสียเงิน และ เสียเวลาโดยใช่เหตุ เผลอ ๆ รวมกันจ่ายเยอะกว่าอีก
ดังนั้น เลือกใช้ของแท้ตั้งแต่แรก ฉีดกับคุณหมอที่มีความเข้าใจเรื่องการเลือกใช้ฟิลเลอร์ จะได้ทั้งสวย และ ปลอดภัยครับ
อีกสิ่งสำคัญที่จะทั้งถนอมฟิลเลอร์ให้คงรูปสวย คือ การหลีกเลี่ยงการจับ กด นวดคลึง บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไปครับ เนื่องจากอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ โดยเฉพาะในอาทิตย์แรกหลังการฉีดฟิลเลอร์
เพราะนอกจากฟิลเลอร์จะเข้าที่ช้าแล้ว ยังมีส่วนทำให้เกิดการอักเสบบริเวณผิวหนังได้ด้วย ดังนั้น แนะนำว่าหากมีอาการอะไรเกิดขึ้น ไม่ควรจับกดเอง ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำจะดีกว่าครับ
นอกจากจะพึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ยังคงสำคัญไม่แพ้กันคือการดูแลตัวเองครับ ซึ่งถึงแม้จะฉีดฟิลเลอร์ไปจนรอบดวงตาสวยแล้ว
ผมยังคงแนะนำให้รับประทานของที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน หากสามารถหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และ สูบบุหรี่ได้จะยิ่งดีเลยครับ
แสงแดดและความร้อนเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ลดอายุของฟิลเลอร์ครับ โดยเฉพาะหลังฉีดไป 1 อาทิตย์แรก ควรหลีกเลี่ยงทั้งแสงแดดจากธรรมชาติ และ แสงจากการทำเลเซอร์ ความร้อนจากการอบซาวน่า
ทั้งหมดจะต้องพักในช่วงแรกก่อนครับ ดังนั้น เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่กับเรานาน ๆ แนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อน หรือ แดดจัด ๆ ครับ จะได้ผิวไม่เสียด้วย อีกทั้งยังควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งเมื่อออกแดดครับ ใต้ตาจะได้ไม่กลับมาคล้ำเพิ่มอีก
ตัดถุงใต้ตา เป็นวิธีแก้ไขแบบสมัยก่อน เพราะ ปกติแล้วการแก้ไขถุงใต้ตานั้น ต้องใช้การผ่าตัดเพื่อนำก้อนไขมันที่อยู่รอบดวงตาออกก่อน
หลังจากนั้นก็ทำการตัดผิวหนังส่วนที่เกินออกครับ แต่สำหรับคนที่ไม่พร้อมกับการผ่าตัด ทางเราสามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคพิเศษ โดยการใช้ฟิลเลอร์แก้ไขบริเวณถุงใต้ตาครับ
อ่านต่อทำไมมีข่าวออกมาว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด ถือเป็นผลข้างเคียงหรือเปล่า? เป็นคำถามที่พบได้บ่อยมากครับ ทำไมฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกแต่ตาบอด
เหตุผลก็คือ ใบหน้าเรานั้นมีเส้นเลือดอยู่มากมาย อีกทั้งมีการเชื่อมต่อกันเป็นร่างแห ทั้งในส่วนของเส้นเลือดแดง และ เส้นเลือดดำ
เส้นเลือดที่ฉีดไปโดนแล้วมีปัญหาคือ เส้นเลือดแดง เพราะเป็นเส้นเลือดที่มีแรงดันจากการเต้นของหัวใจ และ นำเลือดดีไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้า
ดังนั้นเวลามีก้อนอะไรก็ตามเข้าไปอุดอยู่ในเส้นเลือดแดง เช่น ฟิลเลอร์ หรือ ก้อนไขมัน ก็จะทำให้เกิดการอุดตัน ขาดเลือดไปเลี้ยง อวัยวะนั้นเลยตายครับ
ยกตัวอย่างเช่น มีก้อนไปอุดที่เส้นเลือดที่บริเวณจมูก เลยทำให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกบริเวณตาย ถ้าไปอุดที่เส้นเลือดบริเวณตา ก็ทำให้ตาบอด ซึ่งตาบอดนั้นถือเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุดครับ
แล้วที่ตาบอด เพราะว่า ในลูกตานั้น มีเส้นเลือดแดงใหญ่ที่นำเลือดมาเลี้ยงอวัยวะภายในลูกตา ชื่อ Central retinal artery ถ้าเกิดมีการอุดตันที่เส้นเลือดนี้ จะเรียกภาวะนี้ว่า Central retinal artery occlusion (CRAO) ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะภายในลูกตาได้ ทำให้ตาบอดได้ครับ
ซึ่งภาวะนี้ถ้าเกิดขึ้นแล้ว โอกาสที่จะดีขึ้นนั้นน้อยมาก อีกทั้งยังถือเป็นภาวะเร่งด่วนทางตา ต้องรีบรักษาภายใน 90 นาทีหลังจากมีการอุดตัน เพราะถ้านานกว่านั้น เซลล์จอประสาทตาจะตายแบบถาวรครับ (Irreversible damage)
อธิบายแบบนี้คนไข้คงจะเห็นแล้วว่า หมอที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ต้องไม่ใช่แค่ฉีดเป็นอย่างเดียว แต่ในกรณีที่มีปัญหาแบบนี้ ต้องมีความรู้ ความสามารถที่จะช่วยคนไข้ได้ทันท่วงทีด้วย คงไม่มีคนไข้ท่านไหนอยากมาทำสวยแล้วตาบอดกลับบ้านไปแน่นอนครับ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด จริงหรอ? เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกท่านที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์มีความกังวลในหัวแน่ ๆ ครับ
บอกตามตรงว่าผมถูกถามเกี่ยวกับประเด็นนี้มาเยอะมาก ๆ ครับ บางทีก็เคยอ่านเจอตาม Pantip หรือ Web board ต่าง ๆ เกี่ยวกับ อุทาหรณ์ ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด วันนี้เลยอยากมาพูดในประเด็นนี้บ้างครับ
อ่านต่อ
โรคทางตา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้หรือไม่? เชื่อว่าหลายท่านที่อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ ฟิลเลอร์ชั้นตา
คงมีความสงสัยเกี่ยวปัญหาโรคทางตานะครับ ว่าถ้าเรามีปัญหาโรคทางตาจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้รึเปล่า เสี่ยงไหม อันตรายไหม แล้วต้องดูแลตัวเองยังไงถึงจะปลอดภัยนะครับ เพราะว่าดวงตาเราเนี่ยก็สำคัญมาก ๆ
อ่านต่อ
1. ขั้นตอนการประเมินใบหน้า : จุดที่ต้องการแก้ไข และ วางแผนการในการทำหัตถการ ก่อนการเข้ารักษาแพทย์ผู้ทำหัตถการจะประเมินใบหน้าคนไข้ก่อน
บางทีจุดที่คนไข้ต้องการแก้ไขอาจจะมีหลายจุด ซึ่งบางทีไม่สามารถทำการฉีดพร้อมกันได้ แพทย์ผู้ทำการรักษาจะประเมินว่าควรเริ่มแก้ไขบริเวณไหนก่อนถึงจะเหมาะสม และจะช่วยคนไข้วางแผน
2. ทำความสะอาดใบหน้า : เป็นขั้นตอนของการทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้าก่อนการทำหัตถการ เพื่อที่แพทย์จะได้เห็นจุดที่คนไข้ต้องการแก้ไขอย่างชัดเจน
และ เพื่อความสะอาดในการทำหัตถการ หลังจากนั้นจะมีการใช้อุปกรณ์เย็นชัด ครีม หรือ ยา เพื่อช่วยระงับความรู้สึกในการฉีดฟิลเลอร์ หรือ ทำหัตถการอื่น ๆ บริเวณนั้น
3. ขั้นตอนการทำหัตถการ : การฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดจะมีความแตกต่างกัน บางจุดใช้เวลาในการทำหัตถการเพียงไม่นาน แต่บางจุดอาจต้องใช้เวลาในการทำหัตถการ
อาทิเช่นใต้ตา หรือ เปลือกตาครับ เพื่อที่ว่าหลังแก้ไขฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์ของทั้งสองข้างจะได้มีความสวย และ สมมาตรมากที่สุด
ซึ่งในระหว่างการทำหัตถการ จะมีการนวด และ ประเมินผลไปพร้อมกัน เพิ่มจำนวนซีซีฟิลเลอร์ตามสมควร โดยทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของคนไข้ด้วยครับ
4. การทำความสะอาดแผล ทำแผล : หลังจากทำหัตถการแล้ว อาจจะมีแผล หรือ รอยเข็มเล็ก ๆ ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน บางท่านอาจมีเลือดออกเล็กน้อย จะมีการทายา และ ปิดปากแผลให้ โดยหลังจากการปิดปากแผลเพียง 15 นาที ท่านก็สามารถนำแผ่นปิดปากแผลออกได้
5. หลังการทำหัตถการทันที : จะมีอาการบวมขึ้นเล็กน้อย ถือเป็นอาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ หากท่านไหนมีอาการบวมมาก จะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวม โดยบางท่านจะมีอาการฟกช้ำอยู่ประมาณ 1-2 วัน แต่ก็จะไม่เจ็บปวดมาก สามารถใช้น้ำแข็งประคบอย่างเบามือด้วยตนเองที่บ้านได้ เพื่อลดอาการบวม และ ลดความรู้สึกไม่สบาย
แพทย์ผู้ทำหัตถการ จะมีการสั่งจ่ายยาให้ แนะนำให้ท่านทานยาตามที่แพทย์สั่ง นอนหมอนสูงช่วง 2-3 วันแรกเพื่อลดอาการบวม โดยแพทย์จะแนะนำเพิ่มเติมให้หลีกเลี่ยงความร้อนทุกประเภทในช่วงอาทิตย์แรกของการทำหัตถการ
เนื่องจากอาจส่งผลต่อบริเวณที่ทำหัตถการได้ หากผู้ป่วยรู้สึกไม่พอใจ หรือ เป็นกังวลกับผลลัพธ์ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงใด ๆ ไม่ควรไปจับ หรือปรับนวดเองแบบแรง ๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา หรือตรวจดูความผิดปกติที่เกิดขึ้น
อย่างที่ทราบกันว่าบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมากเป็นพิเศษ เส้นเลือดเยอะ หากคุณหมอที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ ไม่มีความเข้าใจกายวิภาครอบดวงตามากพอ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้คุณเสียใจไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ครับ
เพราะสิ่งที่คนไข้ควรกังวลพอ ๆ กับเรื่อง ฉีดมาแล้วจะสวยไหม? คือฉีดมาแล้วจะปลอดภัยรึป่าว ถ้าเกิดปัญหาอะไร แพทย์ที่เราทำการรักษา มีความสามารถในการแก้ไขให้ทันท่วงทีหรือไม่
ตัวผมเองเป็นจักษุแพทย์เฉพาะทาง ศึกษาเรื่องรอบดวงตามาเป็นอย่างดี มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์รอบดวงตามากกว่า 15 ปี สามารถเชื่อมั่นได้ว่า ผมจะสามารถแก้ไขปัญหารอบดวงตาให้ได้ครับ
โดยผมจะเน้นความเป็นธรรมชาติ ยิ้มแล้วไม่ดูแข็ง ไม่เป็นก้อน คนไข้จะได้ความสวยที่มาพร้อมความปลอดภัยครับผม
บริเวณใต้ตาถือเป็นจุดที่ต้องมีความละเอียดอ่อนในการเลือกฟิลเลอร์มากครับ ไม่ใช่ฟิลเลอร์อะไรก็ได้จะมาใช้ฉีดใต้ตา เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีการขยับเยอะมาก
ถ้าฉีดตัวที่มีความแข็งเกินไป จุดที่ทำการแก้ไขจะดูไม่เป็นธรรมชาติ เวลายิ้มหน้าอาจจะดูแข็ง ไม่สวย ซึ่งปกติสำหรับการแก้บริเวณใต้ตา ผมจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ 2 แบรนด์ครับ เป็น Restylane กับ Juvederm
ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้มีข้อดีที่แตกต่างกันไป แต่สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตา ถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำได้เหมือนกันครับ สำหรับแบรนด์ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ผมจะประเมินจากปัญหาดวงตาของคนไข้ ว่าเหมาะกับการใช้แบรนด์ไหนมากกว่ากันครับ เพื่อการแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด จะได้สวยแบบที่คนไข้ต้องการครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยังไงให้ปลอดภัย? ตามจริงฟิลเลอร์ ถือเป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูงมากนะครับ เพราะว่าตัว Hyaluronic Acid ก็เป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวหนัง สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้หลายจุดทั่วทั้งหน้าครับ
ต้องบอกก่อนว่าฟิลเลอร์มีหลายประเภท หลายยี่ห้อ และ น้ำหนักของฟิลเลอร์แต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน
อ่านต่อ
ฟิลเลอร์ปลอม คือ สารเติมเต็มที่ไม่ใช่ HA (Hyaluronic Acid) เป็นพวกซิลิโคนเหลว หรือ Filler ที่มีการผสมสารที่ไม่ใช่ HA น้ำหนักโมเลกุลค่อนข้างหนัก ฉีดแล้วเป็นปัญหาแน่นอนครับ เพราะมันอาจจะห้อยได้
เนื่องจากน้ำหนักของ ฟิลเลอร์ปลอมจะหนักกว่าตัวฟิลเลอร์แท้ ที่สำคัญคือ ฟิลเลอร์ปลอม ฉีดไปแล้วไม่สลายครับ นั่นหมายความว่า จะกลายเป็นสิ่งตกค้างในหน้าเรา
อ่านต่อFirst Clinic ฟิลเลอร์รอบดวงตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
