ใต้ตาดำ ภูมิแพ้ ถือเป็นของคู่กันเลยค่ะ สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ แน่นอนว่าต้องมีปัญหาใหญ่ ๆ ที่เป็นกังวลอยู่นั่นก็คือ “ใต้ตาดำจากภูมิแพ้” ที่เกิดขึ้นโดยกำเนิดใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะทาครีมใต้ตาสักกี่ตัว กี่ชนิด ก็รักษาไม่หายสักที
เช่นเดียวกันกับเคสของ คุณพริม “แพรชมพู นาคสุขศรี” ที่ได้มีโอกาสมาปรึกษาคุณหมอเฟิสท์ที่ First Clinic เกี่ยวกับปัญหาใต้ตาดำ คล้ำ จากโรคภูมิแพ้
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเป็นอย่างไรนั้น วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ของคุณพริมให้ทุกคนได้ฟังกัน เพื่อเป็นรีวิวประกอบการตัดสินใจในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาค่ะ
‘คุณพริม’ ปัจจุบันอายุ 25 ปี มีโรคประจำตัวนั่นก็คือ “โรคภูมิแพ้” ปกติแล้วในการใช้ชีวิตประจำวันคุณพริมได้เล่าให้เราฟังว่า มักจะชอบขยี้ตาอยู่บ่อย ๆ ทำให้ใต้ตาเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย มากไปกว่านั้นเกิดเป็นรอยคล้ำ ใต้ตาดำ ตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ดูไม่สดใส เรียกได้ว่าดูพังมาก ๆ
เวลาจะออกไปข้างนอก ก็ต้องใช้การแต่งหน้าเข้าช่วย ซึ่งการแต่งหน้าก็ไม่ได้ช่วยปกปิดได้ 100% แต่งหน้าทีก็ต้องกลบคอนซีลเลอร์หนา ๆ เกิดเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่นานหลายปี คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีให้หายไป
จนคุณพริมได้มาเจอการฉีด ‘ฟิลเลอร์’ ที่เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ สามารถช่วยให้ใต้ตาหายคล้ำไปได้ในทันที ทีแรกก็มีช่างใจว่าจะฉีดดีไหม จะปลอดภัยหรือเปล่า คุณพริมทั้งถามคนรอบตัว รวมไปถึงศึกษาข้อมูลผ่านทางเพจเยอะมาก ๆ ดูรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาหลากหลายเคส และ ศึกษาข้อมูลของคุณหมอก่อนจนรู้สึกมั่นใจค่ะ
พอได้มีโอกาสปรึกษาคุณหมอ ความมั่นใจของคุณพริมก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วย ‘คุณหมอเฟิสท์’ เป็นจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านรอบดวงตาโดยเฉพาะ และ มีประสบการณ์กว่า 15 ปี จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด
พร้อมทั้งประเมิณจุดที่ต้องทำการแก้ไขบนใบหน้าได้อย่างละเอียด มั่นใจได้เลยว่าการฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาใต้ตาดำ ภูมิแพ้ ที่พริมเป็นได้อย่างปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอนค่ะ
ก่อนรับการแก้ไข
สังเกตได้ว่าก่อนรับการแก้ไข คุณพริม มีใต้ตาที่ค่อนข้างคล้ำ และ ลึก จากโรคภูมิแพ้โดยกำเนิดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใต้ตาดูโทรม นอนน้อย ไม่สดใสมาก ๆ
อีกทั้งคุณพริมยังบอกอีกว่า “ตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ เป็นการฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตาครั้งแรก ไม่รู้ว่าจะเจ็บไหม แต่ระหว่างการทำหัตถการคุณหมอก็ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นกันเองมาก ๆ รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียดเลยค่ะ”
หลังรับการแก้ไขลด ใต้ตาดำ ภูมิแพ้
พอหลังได้รับการแก้ไขคุณพริมได้บอกกับเราว่า “โห ตกใจมากๆ เลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าใต้ตาฟูขึ้น ไม่ลึกเหมือนตอนแรกแล้วนะคะ ก่อนหน้านี้คือพริมมีปัญหาในเรื่องของใต้ตาลึกดำ แล้วพอยิ่งลึกยิ่งดำ พริมก็ยิ่งโปะคอนซีลเลอร์เยอะ ทำให้ไปตกตามร่องแบบนี้เลยค่ะ
ซึ่งตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องนั้นแล้ว ที่สำคัญคือไม่เจ็บเลย คุณหมอเฟิสท์มือเบาสุดๆ ค่ะ โดยรวมคือประทับใจมาก ขอบคุณคุณหมอเฟิสท์มากๆ นะคะ”
รีวิว 2 สัปดาห์ต่อมา
หลังจากนั้นไม่นานคุณพริมก็ได้มีอัพเดทการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในช่วง 2 สัปดาห์ต่อมาให้ทางเราได้ทราบกันค่ะ จะเห็นได้ว่าใต้ตาฟูขึ้น สวยมาก ๆ ความคล้ำ และ ใต้ตาลึกหายไปทั้งหมด
“ไม่ต้องพกคอนซีลเลอร์อีกต่อไป” ใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่งหน้าใสๆ เผยผิวได้เลย คุณพริมยังบอกอีกว่า เห็นเพื่อนไปฉีดที่อื่นกันมาค่ะ ใต้ตาดูเล็กลง ก็กลัวว่าฟิลเลอร์มันจะดันให้ตาเราดูเล็กลงหรือเปล่า
เพราะเราต้องถ่ายรูปลง Instagram อยู่ตลอด แต่พอมาฉีดกับคุณหมอเฟิสท์ไม่ได้รู้สึกว่าตาเล็กลงเลยค่ะ รู้สึกตาสดใสขึ้นมากกว่า อยากแนะนำว่าหากเพื่อนๆ คนไหนอยากฉีดฟิลเลอร์ล่ะก็ ให้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นกันมาดีๆ นะคะ
แล้วก็ใครไม่รู้จะทำที่ไหน ให้ First Clinic เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในใจของทุกคนนะ พริมบอกเลยว่าคุณหมอเก่งจริง ๆ ค่ะ”
อ่านรีวิวของคุณพริมกันจบแล้ว จะเห็นได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด มากๆ เลยนะคะ แต่หลังจากที่ทุกคนฉีดฟิลเลอร์แล้วเราก็ต้องหันมาดูแลตัวเองให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
หากปล่อยไว้เฉยๆ อาจส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ที่สลายเร็วได้ วันนี้ทาง “First Clinic” มีเทคนิคการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ให้หายไว! มาฝากทุกคนกันค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใช้ได้ผล แผลฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
เทคนิคการดูแลตัวเองจากอาการ ใต้ตาดำ ภูมิแพ้
1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางประเภท
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างแน่นอนในช่วงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ นั่นก็คือ อาหารดิบต่างๆ เช่น ปลาร้า ปลาดิบ ผลไม้หมักดองทุกชนิด รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
และ อาหารที่มีโซเดียมสูงรสชาติจัด ๆ เพราะจะทำให้มีอาการบวมน้ำ แถมเพิ่มการอักเสบให้กับบริเวณที่ฉีดค่ะ ทางที่ดีควรงดเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนค่ะ
2. นอนหมอนสูง
หลังได้รับการฉีดฟิลเลอร์แก้ไข ใต้ตาดำ ภูมิแพ้ แล้วแนะนำให้นอนหมอนสูง ๆ นะคะ เพื่อให้หัวสูงขึ้น เพื่อลดอาการบวมค่ะ (คุณหมอแนะนำมาค่ะ ซัก 2 ใบกำลังดี ) และ ไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 2 – 3 วันแรกนะคะ
3.ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่กดแรง
แทบจะอยากให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การนวด โดยเฉพาะถ้าจุดนั้นมีรอยช้ำด้วยแล้วล่ะก็จะทำให้เกิดการอักเสบ และ ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ง่าย
หากต้องการล้างหน้าสามารถล้างได้ค่ะ แต่ต้องล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่กด ไม่นวด เป็นอันขาด ใครเป็นสายสครับหน้าให้หลีกเลี่ยงการสครับใบหน้าในช่วงนั้นไปก่อนเลย
4.ห้ามออกกำลังกายหนัก
เมื่อฉีดเสร็จอยากให้งดการออกกำลังกาย หรือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อ เกิดความร้อน ไปก่อนสัก 2-3 วันนะคะ เพราะการออกกำลังหายเลือดจะสูบฉีดเร็วมาก
ทำให้เลือดซึมเข้าไปยังฟิลเลอร์หรือจุดที่ฉีดได้จนเกิดเป็นรอยแดง อันตรายมาก ๆ นะคะ ใครที่ชอบออกกำลังกายก็งดไปเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ก่อน รวมไปถึงการทำทรีทเมนท์ เลเซอร์ ซาวน่า ด้วยค่ะให้งดอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
