ชะลอวัย และ ผิวพรรณ

การชะลอวัย หรือ เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Medicine) เป็นศาสตร์ของการฟื้นฟูสุขภาพในระดับเซลล์ โดยเกิดจากความเชื่อที่ว่า การที่ร่างกายเราเกิดความชรา ไม่ได้เกิดจากอายุขัยที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวครับ แต่เกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วยที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่ความชรา ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่รับประทานเข้าไป อารมณ์ที่แสดงในแต่ละวัน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย อากาศที่สูดดม สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งเวชศาสตร์ชะลอวัย ถือเป็นสาขาใหม่ทางการแพทย์ในการช่วยป้องกัน และ ฟื้นฟูสุขภาพโดยรวมให้ดี และ แข็งแรงยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการดูแลสุขภาพภายนอก และ ภายในควบคู่กันไป เราอาจจะไม่สามารถห้ามอายุเราไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ครับ แต่เวชศาสตร์ชะลอวัย จะช่วยชะลอความชราทั้งภายใน และ ภายนอกร่างกาย ให้ดูดีขึ้น  ไม่ให้ร่างกายแก่ไปตามอายุจริงครับ

• • • • อย่างแรกจะเป็นการกินอาหารที่ดี มีประโยชน์กับร่างกายครับ พูดง่ายแต่ในทางปฏิบัติแอบยากนะครับ เพราะว่าปัจจุบันนี้มีอาหารสำเร็จรูปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวก Junk Food, Fast Food โดยเฉพาะอาหารที่ติดหวานติดเค็มครับ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งกินรสจัดเราก็ยิ่งติด และ อาหารพวกนี้อย่างที่ทราบกันก็ทำลายสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นตัวการของเกิดโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (non-communicable diseases) ถ้าเป็นไปได้ก็ควรงด หรือ เลี่ยง น้ำหวาน ลดการทานแป้ง แล้วหันมาทานพวกไฟเบอร์ หรือ ผัก ผลไม้เพิ่มขึ้นครับ
      • อย่างที่สองที่หมออยากเน้นก็คือการออกกำลังกายครับ อย่างที่รู้กันว่าการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพสังคมปัจจุบัน สิ่งแวดล้อม การทำงาน เวลาที่ไม่ลงตัว อาจจะทำให้เราออกกำลังกายได้ยากขึ้น ถ้าให้หมอแนะนำอาจจะเป็นการพยายามเดินแทนการขึ้น-ลงลิฟต์ แกว่งแขนลดพุงขณะดูทีวี พาน้องหมาเดินเล่น ขี่จักรยาน ทุกประมาณ 15-30 นาทีต่อวัน ไม่ว่าจะกิจกรรมอะไรก็ตาม หากมีการขยับร่างกาย ก็สามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ครับ

อัลเทอร่า คือ เทคโนโลยีส่งผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง ลงลึกไปถึงเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ทำการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า โดยมีการปล่อยคลื่นออกมาเป็น Dot เล็กๆ (Micro-Fucus) ที่ผิวหนังในชั้นที่เราต้องการให้เกิดการยกกระชับ โดยคลื่นเสียงชนิดนี้จะลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ และ ทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร โดยพลังงานที่นำส่งลงไปจะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังหลายชั้น โดยไม่มีการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังด้านบน โดยอุณหภูมิของตัวอัลเทอร่า จะอยู่ที่ประมาณ 60 องศาเซลเซียส ซึ่งได้รับการวิจัยมาแล้วว่าเป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลพลอยได้ของการทำอัลเทอร่าคือ ลดไขมันไปด้วยในตัว และ ช่วยลดรูขุมขน และ บางท่านอาจจะหน้าใสขึ้น (ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล) ระหว่างการทำอัลเทอร่า แพทย์สามารถประเมินและควบคุมการทำให้จากหน้าจอทันที ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ และ มีความปลอดภัยสูงมาก (อ่านต่อ)

เมโส หรือ เมโสเทอราปี (Mesotherapy) คือ การฉีดวิตามินต่างๆ เข้าสู่ผิวหน้า หรือ บริเวณต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยอาจจะเป็นการสะกิดเข็มไปทั่วใบหน้า หรือฉีดเข้าทางใบหน้า ล้วนแล้วแต่เทคนิค และ ความชำนาญของผู้ทำหัตถการ โดยอายุของเมโส อยู่ได้โดยประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งหมายความว่าจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 1-2 เดือน และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วงเรื่องสารตกค้างค่ะ (อ่านต่อ)

IV Drip คือ การผสมวิตามินและแร่ธาตุเข้ากับน้ำเกลือในปริมาณที่เหมาะสม และให้วิตามินทางสายน้ำเกลือเข้าสู่กระแสเลือด โดยการให้วิตามิน หรือ สารอาหารในรูปแบบนี้ จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และ ดูดซึมได้ 100% ต่างจากการทานวิตามิน ที่ร่างกายนำไปใช้จริงได้โดยประมาณ 20 – 40% เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม IV Drip ถึงนิยมมากในกลุ่มดารา เซเลบต่าง ๆ สามารถเล่นมือถือ ดูหนัง ฟังเพลง ระหว่างทำ IV drip ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที สูตร IV Drip นั้นคิดค้นพิเศษโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยจะแยกเป็นสูตรต่าง ๆ ตามความต้องการของแต่ละบุคคลค่ะ (อ่านต่อ)

NAD+ หรือ Nicotinamide adenine dinucleotide คือ หนึ่งในโมเลกุลที่สำคัญที่สุดของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ NAD+ เป็นครั้งแรก และ เริ่มศึกษาประโยชน์ของ NAD+ ช่วงทษวรรษ 1900 และเมื่อไม่นานมานี้ NAD+ ถึงได้เริ่มกลายเป็นที่รู้จักครับ ถ้าจะให้พูดโดยรวมอย่างง่ายก็คือ NAD+ เป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 สารประกอบที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอายุขัยของเซลล์ในร่างกาย  และ ขบวนการเมตาบอลึซึมของเซลล์ มากกว่า 5,000 ชนิด และมีบทบาทในกลไกการยืดอายุของเซลล์ อีกทั้งยังเป็น โคเอนไซม์ในขบวนการฟื้นฟูเซลล์ในระดับ DNA ซึ่งปกติระดับของ NAD+ ในร่างกายเราจะลดลงตามธรรมชาติมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อ NAD+ ในร่างกายเราลดลง จึงนำไปสู่ความเสื่อมของร่างกาย และ โรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ความเสื่อมถอยของระบบประสาท ความจำ ภาวะโรคหัวใจ โรคอ้วน ปัญหาอื่นๆตามอายุขัยนั้นเอง

หมอแนะนำให้ปฏิบัติง่าย ๆ 3 อย่างตามที่ได้แนะนำวิธีการชะลอวัยด้วยตัวเองไว้ข้างต้น ก็คือการกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และ ฝึกปรับอารมณ์ให้เป็น Positive เป็นประจำครับ ในส่วนของการกินอาหารที่มีประโยชน์ กับ ออกกำลังกาย จะช่วยในด้านร่างกาย ส่วนการปรับอารมณ์ จะช่วยในด้านจิตใจ หากมีการเข้าคอร์สชะลอวัยแล้ว หลังทำไปคนไข้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตตัวเองทั้งสามด้านนี้ เลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท่าที่สามารถทำได้ ร่างกายเราก็จะเริ่มห่างไกลจากความเสื่อม ความชราเรื่อย ๆ ครับ