แสงสีฟ้า อันตรายใกล้ตัว – ทุกวันนี้เราใช้เวลาบนจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ เราใช้ชีวิตอยู่ในยุคที่แทบจะเรียกว่าโทรศัพท์มือถือ เหมือนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 สื่อสารกันง่ายขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งการดูโทรทัศน์ ดูซีรี่ย์เป็นระยะเวลานาน

ซึ่งแน่นอนครับ หากเรามีการเพ่งสายตาบนจอดิจิตัลเป็นระยะเวลานาน ย่อมมีปัญหาทางด้านกล้ามเนื้อทางดวงตา เพราะว่าบนจออุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีแสงสีฟ้า ที่ส่งผลต่อสุขภาพของดวงตาเราได้ครับ ว่าแต่หลาย ๆ คนคงสัยสัยกันว่า อะไรคือแสงสีฟ้า? แล้วอันตรายยังไง บทความนี้มีคำตอบให้ครับ
แสงสีฟ้าคืออะไร?

แสงสีฟ้า คือ แสงที่มองเห็นได้ และ มีความยาวคลื่นสั้น พลังงานสูงใกล้เคียงกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) โดยแสงสีฟ้าที่เป็นโทษจะมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 415 – 455 nm สามารถส่งผลเสียต่อจอประสาทตาได้หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป
โดยจะส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อม เพราะแสงสีฟ้าสามารถทะลุเข้าไปทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตาได้ รวมถึงในเด็ก ก็ส่งผลต่อพัฒนาการการมองเห็น หากได้รับแสงสีฟ้าในปริมาณมากครับ
อันตรายของ แสงสีฟ้า
1. ทะลุทะลวงดวงตา

เนื่องจากแสงสีฟ้ามีพลังงานสูง จึงสามารถทะลุทะลวงดวงตาได้ตั้งแต่กระจกตา เลนส์ตา ถึงจอตาด้านใน ส่งผลกับสุขภาพของดวงตาในอนาคตได้
หากมีการใช้สายตาแบบผิด อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตา ทำให้มีปัญหาจอประสาทตาเสื่อม หากเป็นรุนแรงมากอาจจะสูญเสียการมองเห็นได้
2. รบกวนการนอนหลับ

แสงสีฟ้าสามารถกระทบต่อการนอนหลับได้ ดวงตาเรา และ ผิวหนังมีเซนเซอร์ในการรับแสง สามารถรับรู้ความแตกต่างระหว่างแสงช่วงกลางวัน หรือ แสงในช่วงพระอาทิตย์ตก
ในช่วงเย็นเซนเซอร์รับแสงจะกระตุ้นร่างกายให้หลั่งสารเมลาโทนินตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่กระตุ้นการนอนหลับ โดยจากผลการวิจัยพบว่า หากมีการสัมผัสแสงสีฟ้า (blue light) ในช่วงเย็นจะส่งผลกับการนอน ทำให้นอนไม่หลับได้
3. อาการผิดปกติทางตา

การใช้อุปกรณ์ดิจิตัลเป็นเวลานานทำให้มีอาการตาล้าได้ จากผลการวิจัยค้นพบว่า เวลาเราใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เราจะกะพริบตาน้อยกว่าปกติ
ซึ่งการกะพริบตาน้อยลงจะทำให้ดวงตามีความชื้นน้อยลง และ มีอาการปวดตา ทำให้มีอาการ ตาแห้ง เจ็บตา ระคายเคืองตา ดวงตาล้า ปวดหัว และ กล้ามเนื้อใบหน้าเมื่อยจากการหรี่ตา
วิธีการปกป้องดวงตาจาก แสงสีฟ้า

- ใช้หลักการ 20/20/20
เวลาใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์นาน ๆ ควรพักทุก 20 นาที มองสิ่งของรอบตัวที่อยู่หางประมาณ 20 ฟุต เป็นระยะเวลา 20 วินาที จะช่วยให้ลดความล้าของดวงตาลงได้ ก่อนที่จะกลับไปใช้อุปกรณ์ดิจิตัลอีกครั้ง - ใช้น้ำตาเทียม
ทำให้ดวงตาไม่แห้งด้วยการหยอดน้ำตาเทียมในทุก 2 ชั่วโมง ไม่ลืมที่จะกะพริบตาบ่อย ๆ ในขณะที่ใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน - ปรับแสงสีฟ้าบนโทรศัพท์
เราสามารถลดความเสี่ยงของอาการตาล้า และ ปัญหาการนอนหลับด้วยการตั้งโทรศัพท์เป็นโหมดกลางคืน (night mode) เพื่อลดแสงสีน้ำเงินบนหน้าจอ - ใช้ฟิล์มกรองแสงสีฟ้า
ติดฟิล์มลดแสง หรือ ฟิล์มกรองแสงสีฟ้าบนหน้าจออิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดแสงสีฟ้าที่อาจมากระทบดวงตา - ใช้แว่นกรองแสง
ใช้แว่นถนอมสายตาเพื่อลดแสงสีฟ้าในขณะใช้อุปกรณ์ดิจิตัล หรือ ในช่วงที่ต้องทำงานหน้าจอเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้รู้สึกสบายตาในขณะทำงานยิ่งขึ้น
ข้อดีของแว่นกรองแสงสีฟ้า

- กรองแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายต่อดวงตา เหมาะกับคนที่ใช้งานหน้าคอมเป็นประจำ
- ถนอมสายตา ลดอาการตาล้า ไม่สบายตา ปวดตา เคืองตา ตาไม่สู้แสง
- ป้องกันภาวะทางตาที่รุนแรง เช่น จอประสาทตาเสื่อม
- ทำให้พัฒนาการทางจอประสาทตาของเด็กเป็นไปตามปกติ
- การใช้แว่นถนอมสายตาช่วยส่งผลให้การนอนหลับเป็นไปอย่างดีขึ้น
ทำไมต้องใส่แว่นกรองแสงสีฟ้า BE1st !
ทำไมต้องใช้แว่นถนอมสายตา Be1st
เป็นแว่นถนอมสายตาที่ออกแบบ และ พัฒนาโดยจักษุแพทย์เฉพาะทาง นพ.ลัทธพล ม้าลายทอง (หมอเฟิสท์) พัฒนาเลนส์แว่นให้สามารถปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าได้จนถึงระดับเลเซอร์ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ได้ทุกเพศทุกวัย
สามารถใช้ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ได้เป็นเวลานานโดยไม่หนัก หรือ ปวดหู และ จมูก โดยใช้เลนส์ Blue light Blocking 1.67 รวมถึงข้อดีอื่น ๆ ได้แก่

- กันแสงสีฟ้าได้ 98% หรือ 490 นาโนเมตร
- กันรังแสง UVA / UVB ได้ 100%
- กรองคลื่นแสงที่เป็นพลังงานสูงได้ถึง 95%
- ความผิดเพี้ยนของสีเกิดขึ้นน้อยมาก
- เลนส์ Multi coat คุณภาพดี ภาพคมชัดทุกเฉดสี
- ตัวเลนส์เคลือบผิวแข็ง ลดรอยขีดข่วน คงทน แข็งแรง
- กรอบแว่นนำเข้าจากประเทศเกาหลี เนื้อ TR Korea
สรุป วิธีการป้องกัน แสงสีฟ้า
แสงสีฟ้าอาจจะดูเหมือนมีแต่โทษนะครับ แต่ก็มีข้อดีเหมือนกันนะครับ จะช่วยในเรื่องทำให้ร่างกายตื่นตัว อีกทั้งยังช่วยในเรื่องความจำ และ การทำงานของสมอง ไม่ใช่ว่าร่างกายไม่ต้องการแสงสีน้ำเงินเลยนะครับ
แสงสีฟ้าก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ แต่การรับแสงสีฟ้ามากเกินไป อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาทิเช่น จากพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ดิจิตัลเป็นเวลานานนั้นคือปัญหาครับ ดังนั้นการป้องกันแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยมีความจำเป็น ทั้งกับเด็ก และ ผู้ใหญ่ครับ
เพราะส่งผลถึงการทำงานของจอประสาทตา การใส่แว่นถนอมสายตาเลยเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลดวงตา ในกรณีที่ต้องเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน เพราะดวงตาเรามีคู่เดียว ต้องดูแลให้ดีที่สุดครับ
หากท่านใดสนใจปรึกษาปัญหาดวงตา หรือต้องการสั่งซื้อแว่นถนอมสายตาสามารถสอบถามได้ที่ LINE : @firstclinic ได้เลยครับ
ขอบพระคุณครับ
นพ. ลัทธพล ม้าลายทอง (หมอเฟิสท์)
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและแก้ไขสายตา
First Clinic ฟิลเลอร์รอบดวงตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ