ข้อควรรู้ก่อนทำ Sculptra นวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวล่าสุด ไขทุกข้อสงสัยที่นี่ที่เดียว!

สเก้าต้าคือ

 Sculptra เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่ใหม่ล่าสุด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย และดูแลผิวอย่างล้ำลึก สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า แล้ว Sculptra มีดียังไง ช่วยให้ผิวแน่น ฟูได้จริงหรอ และมีผลข้างเคียงอะไรไหมหลังทำ บทความนี้จะตอบทุกปัญหาที่ค้างคาใจให้กับทุกคนกันค่ะ

สารบัญ

Sculptra คืออะไร?

sculptra คืออะไร

Sculptra คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA) จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator เป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการธรรมชาติ

ช่วยความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทำให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น Sculptra เป็น collagen stimulator ตัวแรกของโลกและเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA

ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบคอยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ ให้เป็นกังวล

Sculptraเหมาะกับใคร

sculptra-เหมาะกับใคร

Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดซึ่งเกิดขึ้นตามวัย เพราะ Sculptra เป็นอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) ที่เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพี่มมากขึ้นรวมกึ่งฟื้นฟูโครงสร้างกายในชั้นลึกของผิวเพื่อให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้น ผิวดูแน่นอิ่มฟู

ละช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพร้อมปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่า Sculptra ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะมากๆกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนานเพราะจากการวิจัยพบว่า Sculptra สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งก็เป็นที่พึ่งพอใจกับคนไข้ที่ฉีดไปเป็นอย่างมาก

คอลลาเจนคืออะไร

คอลลาเจนคือ

คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% เป็นโครงสร้างสำคัญของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังกระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ เป็นต้น โดยในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนหลากหลายชนิด ซึ่งชนิดที่สำคัญและเราสามารถพบได้บ่อยมีด้วยกัน 3 ชนิด

1.) คอลลาเจน Type1 เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกายพบมากอยู่ในผิวหนังและเส้นเอ็นมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง

2.) คอลลาเจน Type2 ที่เป็นเส้นใยที่หลวมกว่า Type1 พบมากอยู่ในกระดูกและข้อต่อ

3.) คอลลาเจน Type3 wบมากอยู่ในผิวหนัง และหลอดเลือด แต่ไม่แข็งแรงเท่ากับคอลลาเจน Type1

คอลลาเจนชนิดไหนที่จำเป็นต่อผิวของเรามากที่สุด?

คอลลาเจนที่มีความสำคัญกับผิวหนังของเราต้องการมากที่สุดก็คือคอลลาเจน Type1 ที่พบมากที่สุดในผิวหนัง ยิ่งอายุเรามากขึ้นกลับกันร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงเมื่อข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไปเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวปีละ 1 – 2% และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปีการสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง สัญญาณอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้คือ ผิวจะไม่กระชับเหมือนเดิม เกิดริ้วรอยต่างๆที่ชัดเจนขึ้น

ซึ่ง Sculptra หรือ Original Collagen Biostimulator เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติให้เพิ่มมากขึ้น โดยตามผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิต Collagen type 1 ได้มากเทียบเท่ากับ Sculptra ในตอนนี้

เมื่ออายุมากขึ้นโครงสร้างของใบหน้าและผิวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?

โครงกระดูกใบหน้าจะเปลี่ยนแปลงรูปทรงตามการสลายของกระดูก Volume Ioss ทำให้มีการสูญเสียปริมาตรบนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าตอบและไม่สดใส ที่สำคัญเลยคือเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง

 โดยปกติจะเริ่มสร้างลดลงตั้งแต่อายุเข้าประมาณ 20 ปีและเมื่ออายุถึงวัย 45 ปี การสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง จึงทำให้สังเกตเห็นได้ชัดว่าผิวมีความหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญในการพยุงโครงสร้างของผิวหากคอลลาจนลดลงจะทำให้ผิวหย่อนคล้อย และเสียรูปทรงได้

Sculptra มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

sculptra-กระบวนการทำงาน
  • Sculptra ถูกผสมด้วย sterile water ถูกฉีดในผิวหนังชั้นลึก Subcutaneous
  • ผิวจะดูเติมเต็มทันทีหลังการฉีด Sculptra
  • หลังจากฉีด 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบต่างๆ จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยจะเหลือเพียงแค่อนุภาคของ Sculptra ทำให้อาจจะเห็นร่องลึก ริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
  • อย่างไรก็ตาม Sculptra จะเริ่มกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยดึงเซลล์Macrophages มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra จำนวนมาก และมีการส่งสัญญาณให้เซลล์ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น
  • Fibroblast เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง จึงทำให้ผิวมีความแข็งแรง และกระชับ
  • เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของ Sculptra จะค่อยๆหายไปเหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน และฟื้นฟูความแข็งแรงโครงสร้างผิวหนังในระยะยาว
  • ช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนาน 25 เดือน

เป็นการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจน Type 1 Sculptra สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อยขาด Volume ช่วยทำให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น

Sculptra ควรจะต้องฉีดกี่ครั้งที่จะเห็นผลลัพธ์

ผลลัพธ์หลังการฉีด Sculptra จะค่อยๆเห็นผลที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากการฉีดประมาณ 2- 3 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยตามผลการวิจัย Sculptra จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่ง collagen type1 เป็นคอลลาเจนตัวที่ผิวของเราต้องการมากที่สุดด้วย

โดยทั่วไปควรจะทำการ ฉีด 2 – 3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุกๆ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

Sculptra ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่?

ผลลัพธ์หลังการรักษาด้วย Sculptra จะยังไม่สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง หน้าจะดูไม่แข็งแต่ให้ความเป็นธรรมชาติมากเพราะอนุภาคของ Sculptra หรือสาร PLLA-SCA จะค่อยๆ เข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึกและเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวของตัวเองให้เพิ่มขึ้น ทำให้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีดไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะเห็น ผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี

ผลข้างเคียงหลังฉีด Sculptra

อาการทั่วไปหลังการฉีดในช่วง 1-2 วันแรกแล้วจะหายไปเองจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำหรือมีอาการปวดเล็กน้อย ผลข้างเคียงอื่นๆ ส่วนมากก็จะไม่ได้รุนแรงอะไร แต่หากหลังจากฉีดไปแล้วอาจจะมีคลำเจอตุ่มนูนหรือก้อนเล็กๆใต้ผิวหนังก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถทำตามที่คุณหมอแนะนำคือให้เนันนวดบริเวณที่ฉีด Sculptra มา เพื่อให้อนุภาคของสารที่ฉีดไปไม่เกาะกลุ่มกันเป็นก้อน

นอกจากนี้ Sculptra ยังสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ตกค้างในร่างกาย และ Sculptra ยังถือเป็น collagen biostimlator ตัวแรกของโลกและตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US-FDA ยิ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยต่อร่างกายของคนไข้ได้เป็นอย่างดี

วิธีการเตรียมตัว ก่อนที่จะมารักษาด้วย Sculptra

การดูแลก่อนหลังทำ sculptra

การเตรียมตัวก่อนจะมาทำการรักษาคงจะคล้ายๆกับการรักษาแบบอื่นๆ ทั่วไป คือ

  • ต้องไม่ฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการ ตัวอื่นๆ มาก่อนประมาณ 2 – 4 อาทิตย์ 
  • ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มยาแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการพกช้ำ
  • งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยากเช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด ดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง 
  • ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่

คำแนะนำหลังฉีด Sculptra

หลังจากการฉีดคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้น แต่สามารถประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมได้

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ำเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงก่อนรวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวีจนกว่าอาการบวมและแดงจะหายไป

นอกจากนี้ต้องไม่ไปฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่นๆหลังจากที่ฉีดมาแล้ว เว้นไปประมาณ 2-4 อาทิตย์หลังจากนี้

และสิ่งสำคัญหลังจากฉีด Sculptra ไปแล้วต้องคอยนวดโดยใช้หลักการแบบ Triple5 เพื่อให้อนุภาคสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้าและไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ

ซึ่งจะต้องทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

วิธีการนวด Sculptra หลังฉีด

การนวด หลังทำsculptra

Step 1

ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้างและใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากบริเวณหน้าผากไปทางขมับด้านข้าง ตามภาพ

Step 2

ทำมือในลักษณะยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น แนบบริเวณแก้มทั้งสองข้างตามภาพแล้วค่อยๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปบริเวณข้างแก้มพร้อมกันโดยกดเล้วค่อย ๆ เลื่อนอย่างช้าๆ

Step 3

ใช้อุ้งมือกดบริเวณช่วงข้างแก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากด้านล่างขึ้นไปด้านบนจนถึงโหนกแก้มทำซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้ง เพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้า

Step 4

ทำมือลักษณะเดียวกับ Step 2 บริเวณคางแล้วค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปตามแนวกราม

สรุป ข้อควรรู้ก่อนทำ Sculptra นวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวล่าสุด

สำหรับ  Sculptra เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวมีความเต่งตึงมากขึ้นค่ะ  และเป็น collagen stimulator ตัวแรกของโลกและเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบคอยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างคียงใดๆ ให้เป็นกังวลแน่นอนค่ะ หากใครอ่านบทความนี้แล้วสนใจปรึกษาคุณหมอ สามารถแอดไลน์ @firstclinic ได้เลยค่ะ 

ทางคลินิกของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ที่มากประสบการณ์ เป็นระดับอาจารย์แพทย์ คนไข้สามารถมั่นใจในผลของการรักษาได้เลยค่ะ ไม่มีการเลี้ยงไข้แน่นอน

ขอบพระคุณครับ

นพ. ลัทธพล ม้าลายทอง (หมอเฟิสท์)
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและแก้ไขสายตา

First Clinic ฟิลเลอร์รอบดวงตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ