1.บำรุงผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ

ทริคแรกที่สาว ๆ ไม่ควรจะละเลยนั่นก็คือ การบำรุงผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ ถ้าอยากจะกลับมามีผิวหน้าดี มีชีวิตชีวา ห้ามลืมขั้นตอนนี้เป็นอันขาดนะคะ บำรุงผิวพรรณที่ทางเราอยากจะแนะนำให้สาว ๆ มีติดตู้ Skincare ที่บ้านไว้นั่นก็คือ สกินแคร์ประเภทไวท์เทนนิ่ง (Whitening) ที่ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างใส เช่น เซรั่มวิตามินซี หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

ใครเอาไม่อยู่แนะนำเป็น Night Mask ทาตอนกลางคืนก็ได้ค่ะ เพียงไม่ให้ผิวขาดน้ำผิวพรรณของเราก็จะกลับมาสว่างสดใส ฟื้นฟูผิวเร่งด่วน ดูอิ่มน้ำแล้วนั่นเอง

2.งดแต่งหน้าจัด เพื่อให้ผิวได้พักหายใจ

สาว ๆ คนไหนที่คิดว่าช่วงนี้แต่งหน้าจัดเกินไป ผิวมีแต่แย่กับแย่ อยากให้วางเครื่องสำอางลงแล้วพักก่อนค่ะ! การแต่งหน้าที่ดีควรแต่งในปริมาณที่เหมาะสม พอดีกับโอกาส ถ้าช่วงไหนที่ผิวเราเริ่มมีปัญหา สิวขึ้นเอย หน้าหมองคล้ำเอย หน้าแห้งเอย

อยากแนะนำให้สาว ๆ หยุดแต่งหน้าจัด และ หันมาพักผ่อนผิวหน้า โฟกัสเรื่องการดูแลทำความสะอาดผิวหน้าให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลผิวให้ชุ่มชื้น ก็จะช่วยให้ผิวหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทีนี้จะแต่งหน้าเท่าไหร่ก็ดูผิวสวยประหนึ่งนอนเยอะเลยล่ะค่ะ

3.ฟื้นฟูผิวจากภายในด้วยวิตามิน

ในเมื่อเราฟื้นฟูผิวจากภายนอกกันไปแล้ว เรามาลองฟื้นฟูผิวจากภายในบ้างกันดีกว่าค่ะ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเรื่องผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง

หรืออาจจะเสริมด้วยการดื่มเครื่องดื่มผสมวิตามินที่ฮิต ๆ กันในสมัยนี้ก็ได้นะคะ ก็ถือเป็นอีก 1 ตัวช่วยที่ทำให้ผิวสดใส ไม่คล้ำเสียได้เช่นกัน

4.นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ ห้ามเครียด

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวคล้ำเสีย ไม่สดใส อาจจะเป็นเพราะว่าเราใช้ชีวิตประจำวันหนักเกินไปจนขาดการพักผ่อนค่ะ หากสุขภาพกายดีแล้วสุขภาพจิตก็ต้องดีด้วยเช่นกัน พยายามหาเวลาว่างนอนพักผ่อน หรือ หากิจกรรมสนุก ๆ

พักผ่อนสมองบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่เครียด ไม่เกิดปัญหาสิวผิวหมองคล้ำตามมา สิ่งนี้ก็ต้องทำควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยเพื่อที่จะทำให้ผิวไม่โทรม แถมยังช่วย ฟื้นฟูผิวเร่งด่วน อย่างแน่นอน

5.ดื่มน้ำเยอะๆ กอบกู้ผิวสวย

ในวันที่เราจะต้องเผชิญกับแสงแดด หรือ ฝุ่นที่ทำร้ายผิวของเรา แนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอกันนะคะ เพื่อทำให้สภาพผิวที่แห้งกร้านกลับมามีผิวหน้าที่สวยสดใส ชุ่มชื้น ควรดื่มน้ำระหว่างวันให้เพียงพอประมาณ 1.5 – 2 ลิตร กำลังดี

พกเป็นกระติกน้ำเก๋ ๆ จิบดื่มตลอดวันไว้เลย นอกจากจะเก๋แล้ว ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย ผิวแห้ง เป็นผิวใสอีกด้วย

วันนี้เรานำสูตรลับผิวสวย เสกหน้าใสข้ามคืนมาฝากกันค่ะ ใครที่ต้องไปข้างนอก หรือ มีโอกาสพิเศษ ลองทำตามสูตรลับของเราดูนะ

1.สูตรนวดหน้า

สูตรหน้าใสสูตรแรกแนะนำให้สาวๆ ที่อยู่บ้าน มีเวลาว่าง ลองนวดหน้ากันดูค่ะ ใช้เวลาแต่ละวันไม่เกิน 5 นาทีแน่นอน! แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วมือนวดเป็นวงกลมให้ทั่วผิวหน้า ไล่ระดับจากคางขึ้นไปจนถึงหน้าผากอย่างเบามือ ทำช้า ๆ ประมาณ 10 ครั้ง

แนะนำให้ทำเรื่อย ๆ เป็นประจำ วิธีนี้จะทำให้ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้นทันตาเห็น

2.สูตรมาส์กหน้า

สูตรนี้แนะนำให้ทำหลังล้างหน้าเสร็จ สามารถเลือกมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี คอลลาเจน ที่จะกระตุ้นการทำงานของอีลาสตินใต้ผิวหนัง คืนความสดใส ความอิ่มน้ำให้กับผิวหน้าของเรา หรือ ถ้าใครไม่มีแผ่นมาส์กหน้าแนะนำว่าผัก-ผลไม้อย่าง มะเขือเทศ แอปเปิล สตอรว์เบอร์รี่ มาปั่นรวมกันและพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ก็ทำให้ผิวดูเฟรชขึ้นได้

3.สูตรสครับผิวหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

ตามจริงใบหน้าของเราเป็นส่วนที่บอบบางนะคะ การสครับผิวหน้าที่ดีเลยอยากให้เลือกสครับแบบที่อ่อนโยนต่อผิวหน้ามาก ๆ อย่างน้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนมสดเล็กน้อย ขัดผิวเบา ๆ สัก 1 ถึง 2 นาทีก่อนนอน

เน้นย้ำว่าต้องเบามือมาก ๆ เลยนะคะ แค่นี้ก็เวิร์คแล้วค่ะ เป็นการลดรอยหมองคล้ำบนใบหน้าอย่างเร่งด่วน ช่วยให้วันรุ่งขึ้นตื่นมาหน้าใสปิ๊งทันใจเลย

4.สูตรอบไอน้ำผิวหน้า

หลังจากไปข้างนอกเจอสิ่งสกปรกมาทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น มลภาวะ หรือ เครื่องสำอางที่เกาะบนใบหน้าของเราในชีวิตประจำวัน ผิวหน้าก็ต้องการดีท็อกซ์กันหน่อย การอบไอน้ำผิวหน้าสามารถทำได้ง่ายๆ เองที่บ้าน

โดยต้มน้ำใส่ชามขนาดใหญ่ หรือ ใส่หม้อ เมื่อน้ำเดือดหรือร้อนจัดจนได้ที่ ให้นำมาวางที่บริเวณต่ำกว่าหน้าอก สามารถใส่สมุนไพรลงไปในน้ำเพื่อเพิ่มความหอมได้ตามใจชอบเลยค่ะ

วางทิ้งไว้ให้ไอน้ำระเหยขึ้นมาปะทะกับผิวหน้าประมาณ 5-10 นาที จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก สิ่งตกค้างบนใบหน้า ลดสิวอุดตัน กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดีเยี่ยม

มาถึงจุดนี้… ใครที่อยากมีผิวหน้าสดใส ตื่นนอนแล้วไม่โทรม First Clinic ขอแนะนำเป็น “ฟิลเลอร์ใต้ตา” แก้หน้าโทรมกันค่ะ เป็นกันไหมคะ ? ที่ผิวหน้าของเราก็ดูสดใส แต่สดใสไม่สุดเพียงเพราะเรามีใต้ตาที่หมองคล้ำเฉพาะจุด มองดูแล้วหน้าก็เลยไม่สดใสนั่นเอง

“ฟิลเลอร์ใต้ตา” เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยแก้ไขใต้ตาหมองคล้ำให้หายได้และเห็นผลตั้งแต่การฉีดครั้งแรก ถ้าหากถามว่าฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร และ อันตรายไหม เราจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ เพื่อให้เป็นความรู้ก่อนที่คนไข้จะเลือกทำหัตถการชนิดนี้กันค่ะ

“ฟิลเลอร์ใต้ตา” เป็นการแก้ไขใต้ตาคล้ำโดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปยังบริเวณใต้ตา จะช่วยแก้ไขรอยย่นดวงตา ให้ดูดีขึ้นได้อย่างชัดเจน หลังทำจะสังเกตได้ว่าบริเวณใต้ตาจะดูเต็ม เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง

สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยได้ด้วย และที่สำคัญหากทำแล้วคนไข้ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ในการฉีดจะฉีดประมาณ 1-2 CC เน้นค่อยๆ เติมใต้ตาให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่หลอกตา และไม่เป็นก้อน ทางคลินิกเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm และ Restylane ก่อนฉีดคุณหมอจะประเมิณก่อนว่าคนไข้เหมาะกับแบรนด์ไหนมากกว่ากัน เพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สวยได้อย่างที่คนไข้ต้องการค่ะ

ฟิลเลอร์ตาสองชั้น ถือว่าเหมาะกับสาวๆ ที่อยากมีชั้นตาสวยแบบเร่งด่วน โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม แต่ต้องขออธิบายให้ฟังก่อนคร่าวๆ เลยว่า ‘ฟิลเลอร์ตาสองชั้น’ เป็นการแก้ไขรอบดวงตาเทคนิคพิเศษ

ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีชั้นตาอยู่แล้วเท่านั้น เพียงแค่ต้องการแก้ไขปัญหาตาสองชั้นให้สวยเป๊ะมากยิ่งขึ้น ส่วนมากปัญหาที่คุณหมอจะพบบ่อยนั่นก็คือ เบ้าตาลึกจนชั้นตากลายเป็น 3 ชั้น , ชั้นตาสองชั้นไม่ชัดเจน ซึ่งเกิดจากกระดูกเบ้าตากร่อน ไขมันบนเปลือกตาหายไป

โดยหลังได้รับการแก้ไข ใบหน้าจะหายโทรม เบ้าตาเป็นสองชั้นชัดขึ้น เบ้าตาตื้นขึ้น หน้าตาดูสดใส และ อ่อนเยาว์ค่ะ

การฉีด ‘ฟิลเลอร์ตาสองชั้น’ เป็นเทคนิค First Eye Revive (เฟิสท์อายรีไวฟ์) เหมาะมาก ๆ กับท่านที่ไม่สะดวกพักฟื้นไม่ต้องการศัลยกรรมตาสองชั้น และ ไม่ต้องใช้ไขมันมาแก้ไขเบ้าตาลึก คนไข้ไม่ต้องเสียเวลามาเจ็บตัวหลายจุด

ทั้งจุดที่ดูดไขมันมา และ เจ็บจากการนำไขมันมาฉีดบริเวณเบ้าตา อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์ตาสองชั้นไม่ต้องมารอลุ้นว่าจะติดไหม

เพราะหลังรับการแก้ไขจะเห็นผลทันที สามารถอยู่ได้ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ค่ะ

หากทำหัตถการ ‘ฟิลเลอร์ตาสองชั้น’ กับ First Clinic เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์รอบดวงตากว่า 15 ปี คุณหมอจะเน้นฉีดประมาณ 1 – 2 CC เน้นค่อยๆ เติมฟิลเลอร์ทีละน้อย

ควบคู่ไปกับการให้คนไข้ดูชั้นตา เพื่อประเมินความพึงพอใจไปพร้อมกันค่ะ คนไข้อยากได้ชั้นตาประมาณไหนสามารถแจ้งคุณหมอให้ช่วยปรับได้ตามความเหมาะสมเลยค่ะ