รีวิว ทำตาสองชั้นแบบไม่ศัลยกรรม กับคุณหมอเฟิสท์ ที่เดียวในประเทศ!

นี่คือรูปก่อนฉีดฟิลเลอร์ชั้นตา สังเกตที่ตาของปานตานะคะ มันมีความลึกจนเป็นบล็อกตาที่ชัดและชั้นตาเยอะจนงงว่า สรุปว่าเราเป็นคนตา 2 ชั้นจริงๆ หรออออ และเวลาลืมตาตาจะดูปรือ ๆ แบบไม่ได้ตั้งใจ

ถ้าแต่งหน้าก็จะดูเซ็กซี่นิด ๆ แต่ถ้าไม่แต่งหน้า ก็คือคนหน้าง่วงตลอดเวลาท่านนึง ใด ๆ คือ ถึงจะมีบล็อกตาแต่ก็ต้องติดสติกเกอร์ตา 2 ชั้นเวลาแต่งหน้าอยู่ดี เพราะชั้นตามันไม่เท่ากัน ฮืออออ

ต้องบอกว่าคนที่จะเจอปัญหาแบบปานตาส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มี เบ้าหน้าแขก เบ้าหน้าฝรั่ง เพราะว่าเครื่องหน้าทุกอย่างบนหน้าเราชัดหมดเลย รวมไปถึงความลึกของเบ้าตาด้วย

เรียกได้ว่าตาโบ๋โดยกรรมพันธุ์ไปเลยจ้ะพี่จ๋า เคยสงสัยไหมว่าทำไมเด็กหน้าฝรั่งถึงดูเป็นสาวไวจัง นี่แหละค่ะคือคำตอบของเรื่องราวนี้ 

เอาจริง ๆ ตอนเด็ก ปานตาไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตอะไรหรอก คิดว่าสวยดีด้วยซ้ำ แต่พอเริ่มอายุ 20 กลางๆ เนี่ยชักจะเริ่มเอะใจว่า เอ้อออ สภาพผิวเรายังไม่แก่นะแต่ทำไมคนทักอายุเกิน

ปานตาเลยถึงบางอ้อว่า เพราะความชัดเกินไปของเบ้าตาเนี่ยแหละเป็นปัญหาที่ทำให้เราดูมีอายุค่ะทุกคน  

แต่ๆๆๆๆ คนที่เบ้าตาไม่ได้ลึกโดยกรรมพันธุ์ (สาวหมวยหนุ่มตี๋ทั้งหลาย) อย่าชะล่าใจไปค่ะ พอเราอายุมากขึ้น Baby Fat บนหน้าจะค่อย ๆ น้อยลง ไขมันตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าจะน้อยลง ความโบ๋ของเบ้าตาจะมาทักทายอยู่ดี

รู้แบบนี้ปานตาก็ร้องกรี๊ดเลยสิคะ ยังไงดี ชั้นจะแก่ก่อนเวลาอันควรไม่ได้หรือเปล่า สุดท้ายโชคดีมากที่ได้มาเจอวิธีการฉีดฟิลเลอร์ตาสองชั้นของ First Clinic ค่ะ

จริง ๆ แล้วมีวิธีแก้ปัญหาหลายวิธีนะคะ แล้วแต่ความชอบและกำลังทรัพย์ของแต่ละคนเลย

แต่จากที่หาข้อมูลมาปานตารู้สึกว่าวิธีการฉีดฟิลเลอร์ตาสองชั้นเป็นวิธีที่ WOW ที่สุด!  เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะให้ความคงตัวมากกว่าการฉีดไขมันที่ใคร ๆ อาจจะนิยมทำกัน

ความจริงแล้วไขมันจะสลายไปตามการยืด – ขยายของตัวเราง่ายมาก เอาง่ายๆ คือมันสลายง่ายกว่าฟิลเลอร์นั่นแหละ

อีกวิธีที่คนนิยมคือการผ่าตัดทำตา 2 ชั้นแบบล็อคตาไปเลย ซึ่งขอตัดวิธีนี้ออกเพราะไม่ได้อยากให้รูปแบบของตาเปลี่ยนไปจากเดิม และ ถ้าใช้วิธีนี้เมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ เบ้าตาของเราอาจจะลึกกว่าเดิมไปอีกนั่นเอง

แต่ถ้าเราเลือกฉีดฟิลเลอร์ ที่เป็นฟิลเลอร์แท้ มันจะสลายเองแน่นอน 100% และ ต่อให้ฟิลเลอร์สลาย สภาพดวงตาของเราจะไม่กลับไปโบ๋เท่าก่อนฉีดแน่นอน

เข้าสู่ขั้นตอนทำสวยกัน โดยก่อนฉีดคุณหมอจะฉีดยาชาให้ก่อน เจ็บจิ๊ดเดียวเหมือนเวลาฉีดสิว พอยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก็จะใช้เข็มเจาะเปิดทาง

แล้วเปลี่ยนมาใช้เข็มปลายทู่ๆ ในการฉีด วางใจได้ว่าเข็มจะไม่ทะลุเปลือกตาออกมาแน่นอนค่า บางเคสที่ยากหน่อยอาจจะใช้เข็มปลายแหลมเก็บบ้าง ดูหวาดเสียวหน่อยแต่ก็ไม่เจ็บอยู่ดีค่ะรับรองได้เลย

เคสของปานตา ตอนฉีดตาข้างซ้ายมันก็ไม่ได้ยากเท่าไร อาการคือ เบ้าตาลึก (มาก) ปกติ แต่ตาข้างขวาของเราเนี่ย มันเป็นชั้นตาที่ไม่ปกติค่ะทุกคน

คือมันเป็นเส้นแตกๆ แตกเป็น 3-4 ชั้น ที่ไม่เท่ากัน (นึกภาพตาเขียดออกปะ นั่นแหละ) คุณหมอเก็บดีเทลหลายรอบมาก เพราะมันเป็นร่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว

ครั้งสุดท้ายที่ชั้นตามี 2 ชั้นเท่ากัน น่าจะเป็นช่วงม.ต้นด้วยซ้ำ หมายความว่ามันเป็นร่องเส้นที่เก็บยาก อารมณ์คล้าย ๆ กับการรีดผ้าที่ยับมานานแสนนาน

เท่ากับว่าตาของปานตาคือเคสที่มีทั้งความลึกของเบ้าตา +ร่องเส้นชั้นตาที่แตกไม่พอยังแตกเป็นหลายร่องอีก

สรุปง่าย ๆ คือเคสตาของปานตาเป็นเคสที่ยากมากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ของคุณหมอเฟิสท์ คุณหมอเอ่ยปากเองนะ ปานตาไม่ได้พูด แต่ตอนนี้ออกมาสวยบริ๊งค์อะ คิดดูว่าคุณหมอเฟิสท์เก่งจริงขนาดไหนนน

เอาจริง ๆ เจ็บจิ๊ดเดียวตอนฉีดยาชา หลังจากนั้นแทบไม่รู้สึกอะไร มีเสียวแว๊บ ๆ ซึ่งไม่เจ็บนะ แต่ถ้าไม่ใช่เคสยาก บอกเลยว่าแทบจะนั่งชิล ๆ คุยกับคุณหมอเลยอะ

ให้คะแนนความเจ็บที่ 2/10 ละกัน 1 คะแนนคือตอนจิ้มเข็มยาชา อีก 1 คะแนนคือยังรู้สึกว่ามีอะไรที่เปลือกตา ถึงจะไม่เจ็บก็ตาม

ใช้ชีวิตปกติไปเลยค่ะ ไม่เจ็บนะ อาการของปานตาก็จะมีตึง ๆ เปลือกตานิดนึง เปลือกตาบวมเล็กน้อย บางเคสอาจจะบวม เขียว ช้ำ ขึ้นอยู่กับความยากง่าย

แต่ไม่ต้องกังวล มันจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองแบบที่ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากเท่าไร และหลังทำเราก็จะได้ยาช่วยลดบวมกับยาแก้อักเสบมาทานด้วยค่ะ แนะนำว่า ฉีดเสร็จก็ทานยาเลยทันที

ปานตาเป็นคนเรื่องเยอะค่ะ จะทำอะไรทีนึงคือศึกษานานและอะไรที่ไม่ดีจริงจะไม่ออกตัวบอกต่อ ซึ่งบอกเลยว่า สำหรับการทำสวยครั้งนี้คือไว้ใจคุณหมอเฟิสท์ (นพ.ลัทธพล ม้าลายทอง) คนเดียวเท่านั้นนนน

เพราะนอกจากคุณหมอจะน่ารักและใจดี คุณหมอยังเป็นอาจารย์แพทย์สอนฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ Allergan ประเทศไทยอีกด้วย

ก่อนตัดสินใจมาทำที่นี่ ปานตาทำรีเสิร์ชหนักมากเรื่องการเลือกคุณหมอและคลีนิค เพราะตาเรามีคู่เดียวถ้าไม่เลือกให้ดี มันจะได้ไม่คุ้มเสีย

ไม่ได้หมายความว่าคุณหมอท่านอื่นไม่เก่งนะ แต่ปานตาสบายใจจะเลือกคุณหมอเฟิสท์ด้วยเหตุผลที่บอกไปข้างต้น

คุณหมอเป็นจักษุแพทย์ที่ชำนาญเรื่องดวงตา หมายความว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากการฉีดฟิลเลอร์ขึ้นจริง ๆ คุณหมอจะช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ทันทีอย่างแน่นอน

คุณหมอเฟิสท์ เป็นคนเดียวของประเทศไทยที่ฉีดฟิลเลอร์ชั้นตานะคะ เพราะอย่างที่บอก ชั้นตามันบอบบางถ้าพลาดทีนึงคือเสี่ยงมาก

แต่คุณหมอเฟิสท์เก่งมากจริง ๆ เพราะสามารถรับมือกับจุดนี้ได้ ถ้าไม่ใช่คุณหมอที่ชำนาญและมีประสบการณ์ปานตาไม่ทำแน่นอน

ขอย้ำอีกรอบ สำหรับคนกลัวฟิลเลอร์ปลอม เพราะที่ First Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้แน่นอนค่ะ ตรวจสอบได้จริง

ซึ่งฟิลเลอร์ที่คุณหมอใช้คือ Juvederm หรือ Restylane ซึ่งคุณหมอจะเลือกพิจารณาใช้ตามความเหมาะสมกับปัญหาของเราเรา ไม่ใช่ว่าตัวไหนอยู่นานสุดหรือแพงที่สุด

ราคาเริ่มต้นที่หมื่นเก้านะคะ มีโปรอยู่ตลอด แต่ละเคสค่าใช้จ่ายจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัญหาที่มากน้อยของ สามารถทักไปปรึกษาก่อนได้

บอกเลยว่าทำมาแล้วไม่ผิดหวัง คุ้มค่ากับทุกบาทที่จ่ายไปแน่นอน การฉีดครั้งนึงอยู่ได้ 1 – 2 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลของเราค่ะ

นอกจากดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ดวงตายังเป็นจุดเริ่มต้นของความสวยด้วยค่ะ ถ้ามีงบจำกัด ปานตาแนะนำให้ทำสวยที่ตาเป็นอย่างแรกเลย

เพราะความสดใสของใบหน้าเราจะมีมากน้อยแค่ไหน มันก็อยู่ที่ดวงตาเนี่ยแหละค่ะ ถ้าตาไม่โทรม ไม่โหล ไม่ปรือ หน้าก็จะดูสดใส มีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ หวังว่า รีวิว ทำตาสองชั้นแบบไม่ศัลยกรรม จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านนะคะ 🙂