“ปัญหาสิว” หนึ่งปัญหาใหญ่บนผิวหน้าที่ใคร ๆ ก็ต้องพบเจอ ไม่ว่าจะมีผิวหน้าที่ดีขนาดไหน ประเทศไทยเรามีฝุ่นและมลพิษค่อนข้างหนักค่ะ ทำให้เป็นสิวได้ง่าย และหลังจากนั้นเมื่อสิวหายก็เกิดเป็น “รอยดำ” ที่ยากจะรักษา
วันนี้ทาง First Clinic ขอมาพูดถึง “5 วิธีรักษารอยดำจากสิว ผิวหน้าใส ไร้ที่ติ!” เพื่อเป็นข้อมูลให้สาวๆ กันว่า เมื่อเป็นรอยดำแล้ว ควรรักษาอย่างไรให้หายอย่างรวดเร็ว กลับมามีผิวหน้าใสเหมือนเดิม
- 5 วิธีรักษารอยดำจากสิว
- สูตรขจัดรอยดำ รอยแดง จากสิว
- Item สุดฮิตลดรอยสิว!
- เมโสหน้าใส
- IV Drip
- สรุปวิธีรักษารอยดำจากสิว
5 วิธีรักษารอยดำจากสิว
1.ใช้ครีมลดรอยดำ
สมัยนี้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วย รักษารอยดำจากสิว หรือ ลดรอยดำมีเยอะมาก ๆ ค่ะ เวลาไปเลือกซื้อครีม แนะนำให้เลือกที่มีส่วนผสมของวิตามินอี วิตามินซี อาร์บูติน กลูต้าไธโอน โคจิก และทรานซามิค
เพราะจะมีส่วนช่วยให้รอยดำจางลง เร่งการผลัดเซลล์ผิว ฟื้นฟูผิวให้กลับมาสว่างขาวใสได้อย่างรวดเร็ว
โดยมีข้อแนะนำสำหรับคนที่เป็นสิวก็คือ ถ้ายังมีสิวขึ้นเป็นจำนวนเยอะอยู่อย่าพึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Active ingredients เพราะอาจจะส่งผลให้สิวขึ้นเยอะกว่าเดิม
ทางที่ดีให้สิวหายจนเหลือรอยดำก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มใช้ครีมลดรอยดำนะคะ หรือถ้าอยากใช้จริง ๆ แนะนำแต้มเฉพาะบริเวณนั้นพอค่ะ
2. ใช้เจลว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยสมานแผลได้ดี และ ยังสามารถรักษาสิวและจุดด่างดำได้ดีอีกด้วยค่ะ แนะนำให้ซื้อแบบที่ไม่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์
เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้ ผิวจะได้เรียบเนียน สวย ไร้จุดด่างดำ ถ้าใช้เจลว่านหางที่ทำสำเร็จมาแล้ว เวลาใช้ก็ใช้เป็น Sleeping Mask ได้เลยค่ะ ยิ่งใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งลอก ตัวว่านหางจระเข้ยิ่งช่วยได้ดีมากเลยค่ะ
3. ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้
วิธีนี้เป็นการใช้กรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) หรือที่เรียกกันว่า “กรดผลไม้” ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออกไป เผยผิวใหม่ที่สดใส เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์
AHA จะช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยแผลเป็นจากสิวได้ดีมาก ๆ ค่ะ ถือเป็นส่วนผสมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในปัจจุบันนั่นเอง
4. ทานวิตามินควบคู่
สาว ๆ ร้อยทั้งร้อยมักจะต้องไปทำสวยที่คลินิกกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ อย่างในกรณีนี้ถ้าล็อคดาวน์เกิดไปคลินิกไม่ได้ขึ้นมา การหาวิตามินทานถือว่าได้ประสิทธิภาพที่ดีเทียบเท่ากับการไปคลินิกค่ะ
วิตามินที่แนะนำคือ วิตามินซี และ อี แนะนำให้ทาน 1-2 เดือนติดต่อกันถึงจะเห็นผลในระยะยาว และควรศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทานทุกครั้ง เพื่อให้ตรงกับสภาพผิวและถูกหลักอนามัยนั่นเองค่ะ
5 วิตามินที่ทำให้ผิวดี !
5. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
น้ำเปล่า คือ น้ำบริสุทธิ์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายเป็นที่สุดแล้วค่ะ มีส่วนช่วยดีท็อกซ์ของเสียในร่างกาย ดื่มเยอะ ๆ จะช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมากขึ้น
ส่งผลทำให้รอยสิว รอยดำ รอยแดง จางลงอย่างรวดเร็ว โดยใน 1 วัน ให้ดื่มน้ำไม่ต่ำว่า 1,500 มิลลิลิตรนะคะ หรือถ้าทำได้ 2 ลิตรต่อวันจะดีมาก ๆ คอยจิบในระหว่างวันผิวจะสวยไปทั่วทั้งตัวเลยค่ะ
สูตรขจัดรอยดำ รอยแดง จากสิว
สูตรที่ 1 จันทน์เทศ ผสมกับน้ำผึ้งและซินนามอน
สูตรนี้หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าช่วยลดจุดด่างดำบนใบหน้าได้ดีมาก ๆ เพราะน้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย ผิวเรียบลื่น ป้องกันการติดเชื้อ
จันทน์เทศช่วยลดการอักเสบ อาการบวมจากสิว และสุดท้ายซินนามอนช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และยังขจัดความมันบนใบหน้า
วิธีผสม : นำผงจันทน์เทศ และ ซินนามอนมาอย่างละ 1 ช้อนชา ผสมกับ น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำมะนาวสดสักเล็กน้อย คนให้เข้ากัน นำมาทาบริเวณที่มีรอยสิว และ จุดด่างดำ ทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น (ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
สูตรที่ 2 มะเขือเทศ ข้าวโอ๊ต และ โยเกิร์ต
สูตรนี้เป็นสูตรที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิวค่ะ มะเขือเทศ มีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อมชมพู ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวนำมามาส์กหน้าหน้าจะนุ่มมากๆ ส่วนโยเกิร์ตจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากใบหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น ลดสิวได้ค่ะ
วิธีผสม : นำมะเขือเทศมาคั้นเพื่อแยกกากคัดเอาแต่น้ำมาผสมกับข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ และ โยเกิร์ต 1 ช้อนชา จากนั้นคนให้เข้ากัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที วิตามินจากมะเขือเทศจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้จุดด่างดำบนใบหน้าจางลง แนะนำว่าให้ทำอาทิตย์ละครั้งก็พอค่ะ
สูตรที่ 3 น้ำมันจากต้นชา
หรือเรียกสั้นๆ แบบที่รู้จักกันคือ “Tea Tree Oil” นั่นเองค่ะ เป็นที่โด่งดังอยู่แล้วในเรื่องของการรักษาสิว และ รอยดำจากสิว สูตรนี้จะช่วยไปยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบ ต่อต้านการติดเชื้อ ทำความสะอาดรูขุมขน ลดเลือนรอยดำได้ดีเยี่ยม
วิธีผสม : หยดน้ำมันลงในสำลี ทาบนผิวในบริเวณที่ต้องการ ตามด้วยนวดเบาๆ สัก 2-3 นาที และทิ้งไว้ จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่า สูตรนี้ทำได้เป็นประจำเลยค่ะ เพื่อช่วยขจัดรอยสิวให้จางลงอย่างรวดเร็ว
ไอเท็มสุดฮิตลดรอยสิว
เราเลือกมา 3 ไอเท็มเด็ดๆ ที่ควรมีติดบ้านค่ะ ทั้งหมดเป็นแบรนด์จากเวชสำอาง ใช้แล้วดีต่อผิว ดีต่อใจอย่างแน่นอน
1. Smooth E Cream
ใคร ๆ ก็รู้จักค่ะ แบรนด์นี้โด่งดังไม่พอ คุณหมอทุกท่านยังแนะนำให้ใช้อีกด้วย ครีมตัวนี้ของเค้าขึ้นชื่อเรื่องลดรอยสิว รอยแดง รอยดำ ทุกสรรพสิ่ง! แถมยังลดรอยแผลเป็นได้ดีมาก ราคาน่ารัก เหมาะกับวัยเรียน ใครที่หาครีมถูกและดี คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไร แนะนำเป็นตัวนี้ก่อนเลย
2. Eucerin Sun CC Cream Acne oil Control
เขยิบราคาขึ้นมาอีกสักนิดแต่ยังอยู่ในเรทราคากลางๆ ไม่สูงจนเกินไป หากเทียบกับคุณภาพแล้ว… ยูเซอรีนเป็นอีกแบรนด์ที่อยากแนะนำมาก ๆ ค่ะ ตัวนี้ดีงามพระรามแปด เป็น 3 in 1
มีทั้ง CC Cream , ครีมกันแดด และ ได้รับการบำรุงไปในตัว เหมาะกับสาวๆ ที่แต่งหน้าในวันสบายๆ ตัวนี้ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบอย่างแน่นอน
3. Physiogel Soothing Care AI Cream
ตัวนี้โด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ตมาก ๆ รีวิวว่าดีเพียบ! ซึ่งดีจริง ๆ ค่ะ เหมาะสำหรับ Sensitive Skin ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือใครที่พึ่งเจอสิวเห่อมาหนักๆ สามารถช่วยได้
ตัวนี้จะเป็นเจลใสเนื้ออ่อนโยนที่ช่วยลดการเกิดอาการสิวอักเสบ รอยดำ รอยแดง ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น เป็นสิวได้ยาก สาว ๆ ที่แพ้ครีมอื่นมา ต้องมาซบตัวนี้ค่ะ เอาอยู่แน่นอน
เมโสหน้าใส
ถ้าหากใครที่คิดว่าวิธีธรรมชาติที่ผ่านมาค่อนข้างช้า และ อาจจะไม่ตอบโจทย์ หรือ เห็นผลไวเท่าที่ควรนะคะ วันนี้ทาง First Clinic อยากจะขอแนะนำตัวช่วยดี ๆ อีกหนึ่งอย่างที่เป็นนวัตกรรมที่กำลังมาแรงอยู่ ณ ขณะนี้ในหมู่ของเหล่าดารา-เซเลบริตี้ ทั้งหลาย
มาทำความรู้จักกับ ‘เมโสหน้าใส’ กันค่ะ หลายท่านอาจเคยได้ยินคำว่า Mesotherapy กันมาไม่มากก็น้อยแล้วนะคะ ถ้าจะอธิบายสั้น ๆ แบบที่เข้าใจง่ายเลยก็คือ เมโสเทอราปี เป็นการฉีดสารอาหาร หรือ วิตามินเข้าสู่บริเวณต่าง ๆ ไปยังผิวหนังชั้นกลาง
ทำได้โดยการสะกิดเข็มทั่วทั้งใบหน้า หรือ ฉีดเข้าทางใบหน้าโดยตรงค่ะ เมโสเทอราปีถือเป็นการบำบัดรักษาอย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต คอลลาเจนภายใต้ผิวหนัง รวมไปถึง ช่วยลดรอยดำ รอยแดง รอยสิวต่าง ๆ ให้จางลง กลับมามีใบหน้าที่กระจ่างใสนั่นเอง
เมโสเทอราปีสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบมาก ๆ ค่ะ ซึ่งวันนี้ที่เรากำลังพูดถึงคือ ‘เมโสหน้าใส’ ในการทำหัตถการรูปแบบนี้ จะเป็นการฉีดวิตามิน ABCE, Transamin, Glutathione
และ ส่วนผสมจากคอลลาเจน โคเอนไซม์ เข้าสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวหน้าขาวสว่างกระจ่างใส และ รักษารอยดำจากสิว
ทำให้ผิวแข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เมโสเทอราปีเมื่อถึงเวลาจะสลายไปตามธรรมชาติ
ทั้งนี้หากเราอยากให้เมโสอยู่กับเราไปนาน ๆ ก็ต้องขึ้นอยู่ที่การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์หลังการฉีด หากปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็จะทำให้คุณมีผิวพรรณที่ดีแบบไร้ที่ติได้นั่นเอง
IV Drip
การฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวยังไม่หมดเพียงแค่เมโสเทอราปีค่ะ การทำ ‘IV Drip’ ก็ถือเป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวของเราได้ด้วยเช่นกัน แต่วิธีการทำอาจแตกต่างกันสักเล็กน้อย เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกันคร่าวๆ ดีกว่าค่ะ
IV Drip คือ การผสมวิตามินและแร่ธาตุเข้ากับน้ำเกลือในปริมาณที่เหมาะสม เป็นการให้วิตามินผ่านทางสายน้ำเกลือเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งจะต่างกับเมโสเทอราปีเมื่อสักครู่ที่จะเป็นการฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรงค่ะ
สารอาหารในรูปแบบนี้ จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และ ดูดซึมได้ 100% ต่างจากการทานวิตามินทั่วไป ใครที่เป็นสายทานวิตามินก็จะใช้ชีวิตง่ายขึ้น สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องมานั่งซื้อวิตามินทานในทุก ๆ เดือนเลย
การทำ IV Drip จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ละสูตรก็จะมีความแตกต่างกันไป คิดค้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถฉีดได้ตามความต้องการของผู้ทำหัตถการค่ะ
‘IV Drip’ ถือเป็นวิตามินทรีทเมนต์ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ลดปัญหาอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไม่มีผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหาร ไม่ทำให้ท้องอืด รวมไปถึงแก้อาการปวดหัว Jet-lag ได้
ทางคลินิกของเราจะประกอบไปด้วย 5 สูตร ได้แก่ Immune Booster , Slim Booster , Power Charger , Brain Booster และ Perfect White Radiance ค่ะ (ซึ่งถ้าต้องการเพิ่มวิตามินเรื่องผิวอย่างสุดท้ายตอบโจทย์สุดๆ)
ในการทำ IV Drip กับทาง First Clinic คุณหมอจะทำการประเมินคนไข้ว่าเหมาะกับฉีด IV Drip สูตรไหน พร้อมให้คำแนะนำเป็นรายบุคคล มีพยาบาลที่เชี่ยวชาญและชำนาญในการเปิดเส้น ทำให้ไม่มีอาการเจ็บเลยค่ะ
พยาบาลจะทำการต่อสายน้ำเกลือ และ ปล่อยตัวยา เหมือนการให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ระหว่างการฉีดวิตามินผิว คนไข้สามารถทำกิจกรรมได้ตามสะดวก เรียกได้ว่า ดูแลท่านได้ดีตลอดการทำหัตถการ ปลอดภัย 100% ค่ะ
สรุป วิธีรักษารอยดำจากสิว
วิธี รักษารอยดำจากสิว นั้นมีมากมายค่ะ เราทุกคนล้วนเริ่มจากการรักษาด้วยตนเองอยู่แล้ว อย่าง 5 วิธีการรักษาด้วยตนเองแบบธรรมชาตินั้น หากใครที่มีรอยสิว รอยดำ รอยแดง ที่จางง่าย หายเร็ว เรียกได้ว่าผิวพรรณดีในระดับหนึ่ง
หากทำตามวิธีธรรมชาติก็สามารถช่วยรักษาให้หายได้ ยิ่งควบคู่กับสูตรมาส์กหน้าที่ทางเราได้แนะนำไปนั้น ขอบอกเลยว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาผิวหน้าคุณจะใส ไร้รอยดำ โดยที่ไม่ต้องพึ่งคลินิกได้เลยค่ะ
แต่ถ้าหากใครที่ต้องการแก้ปัญหารอยดำจากสิว รอยแดง ให้หมดไปโดยที่ได้ผลลัพธ์ผิวที่ดีขึ้นแล้วล่ะก็ การทำ “IV Drip และ เมโสหน้าใส” ถือว่าตอบโจทย์คุณ ๆ ได้ดีเลยค่ะ
เพราะ วิตามินที่ได้ทำการฉีดลงไปนั้นจะเห็นผลลัพธ์จริงได้ดีกว่าการทานวิตามินปกติในชีวิตประจำวัน 20-40 % เลยทีเดียว ใครที่พอมีกำลังทรัพย์ หรือ อยากลองนวัตกรรมใหม่ๆ ทาง First Clinic ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำเสมอค่ะ
คุณ ๆ มั่นใจได้เลยว่า ทำหัตถการกับเรา ตรงจุด ปลอดภัย การันตีโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 15 ปี
ขอบพระคุณครับ
นพ. ลัทธพล ม้าลายทอง (หมอเฟิสท์)
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและแก้ไขสายตา
First Clinic ฟิลเลอร์รอบดวงตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ