สวยทันเทรนด์ กับหัตถการที่มาแรงในปี 2025

สวยทันเทรน์ 2025

ปีนี้มีหัตถการความงามออกมาเยอะมากครับ วันนี้เลยอยากจะมาอัพเดตหัตถการที่มาแรง และ ควรค่าในปี 2025 มีหัตถการใหม่ๆ ที่มาแรงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่ต้องการความสวยที่ทั้งทันสมัย และ เป็นธรรมชาติ

ในบทความนี้เราจะทุกคนไปพบกับหัตถการที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมสูงสุดในปี ที่จะช่วยให้ทุกคนสวยทันเทรนด์ และ มั่นใจมากยิ่งขึ้น

Profhilo

เป็นฟิลเลอร์ชนิดพิเศษที่ใช้เทคโนโลยี NAHYCO® เพื่อผสมกรดไฮยาลูโรนิกโมเลกุลสูงและต่ำ ซึ่งช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิว (Bioremodeling) โดยไม่ใช่การเติมเต็มเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป แต่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ โปรตีนในผิว ทำให้ผิวกระชับ และ ยืดหยุ่นขึ้นจากภายใน

ตัว Profhilo สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า, คอ, หน้าอก, แขน และ หลังมือ โดยการฉีดจะทำที่ 5 จุดบนใบหน้า และ ทำการฉีดครั้งที่สองใน 1 เดือนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนภายใน 4 สัปดาห์

ข้อดีของ Profhilo คือ ผลข้างเคียงน้อย, ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, และช่วยให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ Profhilo ไม่ใช้สารเคมีที่กระตุ้นการอักเสบ และสามารถทำได้ทุกๆ 6 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

HarmonyCa

HarmonyCa เป็นฟิลเลอร์แบบไฮบริด (Hybrid Filler) ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งทำให้มันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในการยกกระชับและการปรับสภาพผิวในระยะยาว โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผลลัพธ์ได้ทั้งการยกกระชับทันที และ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว

คุณสมบัติหลักของ HarmonyCa

1.ยกกระชับทันที: สามารถยกกระชับผิวได้อย่างเห็นผลทันทีหลังการฉีด โดยเน้นการยกกรอบหน้า เช่น Jawline หรือ คาง ให้คมชัดและกระชับขึ้น

2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ฟิลเลอร์ตัวนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

3.เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้ผิว: นอกจากการยกกระชับแล้ว ยังช่วยเพิ่มคุณภาพผิวให้ดีขึ้นจากภายใน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและดูสุขภาพดีขึ้น

ระยะเวลาผลลัพธ์

ทำไมต้อง Hamonyca

ผลลัพธ์จากการฉีด HarmonyCa จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และ พื้นที่ที่ทำการฉีด HarmonyCa ซึ่งตัวนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับโครงหน้า หรือ ยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และ ยังช่วยให้คุณภาพผิวดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Volnewmer

คือเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้เทคโนโลยี Monopolar RF ซึ่งช่วยยกกระชับและฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟู ลดความหย่อนคล้อย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยใช้พลังงานความถี่สูง 6.78 MHz ซึ่งส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนังแท้ กระตุ้นการหดตัวของเซลล์ผิวและการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องนี้ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา

จุดเด่นของ Volnewmer

Volnewmer จุดเด่น
  • เทคโนโลยี Monopolar RF: ที่สามารถส่งพลังงานไปถึงผิวชั้นลึก
  • ระบบ Cooling System: ที่ช่วยลดความร้อนและเจ็บปวดขณะทำ
  • Vibration System: ช่วยลดความเจ็บปวด
  • หัวทิปหลายขนาด: ที่เหมาะสมกับพื้นที่ต่าง ๆ บนใบหน้าและร่างกาย
  • ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
  • ไม่มีเวลาพักฟื้น: สามารถใช้ชีวิตตามปกติหลังการทำ

ข้อดี

Volnewmer คือ

1.ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย

2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใส

3.สามารถใช้ในบริเวณต่างๆ เช่น ใบหน้า คอ ร่องแก้ม คาง หน้าผาก และเหนียง

4.เห็นผลภายใน 3-4 สัปดาห์หลังทำ

ข้อควรระวัง:

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีปัญหาผิวหนังที่สามารถติดต่อได้
  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการเพื่อให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสม

การดูแลหลังทำ

Volnewmer หลังทำ ดูแล
  • ทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงการออกแดด
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่มีความร้อนสูง เช่น ซาวน่า
  • งดการนวดหรือถูผิวในบริเวณที่ทำ

Biostimulator

Radiesse คือ

คือ สารหรือเทคโนโลยีที่ถูกใช้ในด้านการแพทย์และความงามเพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวหรือเนื้อเยื่อในร่างกายให้มีการผลิตสารที่จำเป็น เช่น คอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณกระชับ ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดหรือศัลยกรรม

คุณสมบัติของ Biostimulator

1.กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวหนังผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ

2.ช่วยฟื้นฟูผิว: ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น

3.ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: บางตัวมีผลลัพธ์ที่สามารถอยู่ได้หลายเดือนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับประเภทของ Biostimulator

4.ปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้น: เนื่องจากการใช้ Biostimulator มักไม่ต้องการการผ่าตัด จึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

ประเภทของ Biostimulator:

  • กรดไฮยาลูโรนิก: เป็นสารที่มีความนิยมสูงในวงการฟิลเลอร์ ใช้สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจนในผิว
  • กรด Poly-L-lactic (Sculptra): ใช้ในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพื่อให้ผิวดูเต็มและกระชับ
  • Calcium Hydroxylapatite (Radiesse): ใช้สำหรับเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง
  • PRP (Platelet-Rich Plasma): ใช้ส่วนผสมจากเลือดของผู้ป่วยเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว
  •  

การใช้ Biostimulator:

1.ปรับรูปหน้าด้วยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน

2.ลดริ้วรอยที่หน้าผาก ร่องแก้ม รอบดวงตา

3.กระชับผิวที่หย่อนคล้อย

4.ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวหลังจากการบาดเจ็บหรือการผ่าตัด

  •  

Vitaran

คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวจาก polynucleotide ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก โดยใช้ DNA ที่ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจาก DNA ของปลาแซลมอน ผลิตภัณฑ์นี้มักจะถูกเปรียบเทียบกับ skin boosters เช่น Seventy Hyal 2000 แต่ Vitaran มีคุณสมบัติพิเศษคือช่วยในการ ฟื้นฟูบาดแผล และ กระตุ้นการสร้างชีวภาพ ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ

คุณสมบัติและประโยชน์ของ Vitaran

  • กระตุ้นการสร้าง fibroblasts: ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและโครงสร้างของผิว
  • ส่งเสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ: ช่วยให้ผิวฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง
  • เพิ่มการผลัดเซลล์ผิว: ช่วยในการฟื้นฟูผิวให้สดใสและกระจ่างใสขึ้น
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว: ช่วยให้ผิวกระชับและแน่นขึ้น ลดความหย่อนคล้อย
  • ลดการอักเสบ: ช่วยบรรเทาการระคายเคืองและความแดงของผิว
  • ปรับสมดุลการทำงานของเซลล์เมลาโนไซต์: ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และ กระจ่างใส

Vitaran ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

Polynucleotides เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการรักษา สามารถใช้ในการรักษาปัญหาผิวต่างๆ ทั้งที่ใบหน้าและทั่วร่างกาย รวมถึงรอบดวงตาและแผลเป็นจากการขีดข่วนหรือการยืดของผิว (Stretch Marks) โดยเฉพาะ

  • แผลเป็นจากสิว และ รอยดำหลังการอักเสบ (Post-inflammatory hyperpigmentation)
  • ผิวเป็นโรค เช่น โรคผิวหนังอักเสบ, เมลาสม่า และ ผิวหมองคล้ำ
  • ผมร่วง และ ผมบาง
  • ริ้วรอยเล็กและลึก
  • การฟื้นฟูและการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • การสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
  • การแก่ของผิวหน้า เช่น การหย่อนคล้อยและการเกิดริ้วรอย
  • ผิวเสียหาย หรือ รอยแตกลาย

ทำกี่วันเห็นผล

การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นในช่วง 4-6 สัปดาห์ หลังจากการทำการรักษาครั้งที่ 3 และผลลัพธ์เต็มที่จะเห็นใน 3 เดือนขึ้นไป แนะนำให้ทำการรักษา 3 ครั้ง โดยห่างกัน 3 สัปดาห์ ต่อครั้ง Vitaran ต่างจาก skin boosters อย่าง Profhilo หรือ Seventy Hyal ที่แสดงผลในเวลาเร็วกว่า โดยผลของ Vitaran ใช้เวลาในการแสดงผลมากกว่า

สรุป สวยทันเทรนด์ กับหัตถการที่มาแรงในปี 2025

หัตถการที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีใหม่ที่มาแรงในปี 2025 แต่ละเทคโนโลยีมีคุณสมบัติและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน โดยสามารถเลือกใช้ตามปัญหาและความต้องการของผิวแต่ละคนได้เลยค่ะ หากสนใจทำหัตถการไหนหรือสงสัยว่าตัวเองทำอันไหนดี สามารถแอดไลน์ @firstclinic เพื่อเข้ามาปรึกษา คุณหมอผู้เชี่ยวชาญทุกท่านได้เลยนะคะ เพื่อให้คุณดูสวยและอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติในปี 2025 ค่า